Friday 14 August 2015

ดูละครเวทีเด็ก บารอนมึน ผจญภัย (Gracie@5.7Y & Gaily@3M)


ทริปเข้ากทม.ครั้งแรก หม่าม้าจัดให้เจ่เจ้จ้า... หม่าม้าเห็นโพสต์ในเฟสบุ๊กเกี่ยวกับละครเวทีเด็ก เป็นละครเวทีเฉลิมพระเกียรติ เรื่อง บารอนมึนผจญภัย แล้วมีแต่คนบอกว่าเด็กๆ ชอบมาก รบเร้า ให้พาไปดูอีก หม่าม้าเลยอยากให้เจ่เจ้ได้ไปดูบ้าง 

 
ทีแรกก็แอบกังวลนิดนึงเพราะน้องเกลเพิ่งจะ 3 เดือน บ้านเรายังไม่เคยพาน้องไปค้างคืนนอกบ้านเลย แต่พอปรึกษากับป่าป๊าแล้วว่าอยากพาเจ่เจ้ไป ป่าป๊าก็ไฟเขียวให้ ทีนี้ก็มาถึงเรื่องที่พักละ บ้านยายกับก๋งก็มีทำถนนหน้าบ้าน เอารถเข้าไม่ได้ คอนโดเราก็มีคนเช่าอยู่ สุดท้ายป่าป๊าคุยกับอาหยี (เพื่อนป่าป๊าตั้งแต่สมัยเรียนเตรียมฯ) อาหยีใจดีให้เราไปนอนที่คอนโดของอาหยีได้ ได้ที่พักแล้วแม่ก็รีบโทรจองที่นั่งดูละครให้หนูเลยเพราะกลัวจะเต็ม จริงๆ ตอนที่รู้ข่าวเนี่ยเค้าเพิ่งจะเพิ่มรอบแสดงอีก จองตั๋วได้แล้ว ก็เลยโทรนัดยายกับก๋งมากินติ่มซำกันที่รร.บันยันทรีด้วย เลี้ยงวันแม่ให้ยายและเลี้ยงวันเกิดก๋งรวบยอดเลย แพลนทุกสิ่งอย่างเสร็จสรรพ เข้ากทม.ทั้งทีก็ทำธุระให้ครบ

ละครเรื่องนี้นำมาจากพระราชนิพนธ์แปลของสมเด็จพระเทพฯ ชื่อว่า "นิทานโกหกเยอรมัน" หม่าม้าเลยไปหาซื้อหนังสือมาอ่านให้หนูฟังก่อนที่เราจะไปดูละครกัน



ไปเที่ยวกทม.ครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เจ่เจ๊ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเยอะเลย ไม่เฉพาะหนูเท่านั้นนะ หม่าม้าก็ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับหนูด้วย เพราะต้องค้นคว้าหาคำตอบมาพูดคุยกับหนู ที่สำคัญทริปนี้หนูสนุกมากๆ


เช้าวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2558 ล้อหมุนออกจากบ้านกันตอน 10 โมง (แพลนว่าจะออก 9 โมง แต่มีเด็กๆ ด้วยก็เลททู๊กที) มีลุ้นว่าจะไปทันดูละครรอบบ่ายโมงรึเปล่าเพราะกทม.รถติด ปรากฎว่าไปทันแต่ไม่ทันกินข้าว เจ่เจ้บอกว่ายังไม่หิว หม่าม้าขอป่าป๊าเป็นคนเข้าไปดูละครกับหนู ให้ป่าป๊าดูน้องรออยู่ด้านนอกเพราะข้างในไม่เหมาะกับเบบี้ ตอนที่ละครเริ่มแสดง หม่าม้าสังเกตุเห็นหนูนั่่งนิ่งมากๆ จ้องตาไม่กระพริบ ทำหน้าแบบงงๆ มึนๆ ไม่ยิ้มไม่ขำ (แอบคิดในใจว่าแย่แล้ว สงสัยหนูจะไม่ชอบ) ต้องคอยถามหนูเป็นระยะๆ ว่าหนูเอ็นจอยมั้ย หนูก็พยักหน้า ละครแสดงทั้งหมด 14 เรื่อง หม่าม้าเปลี่ยนออกมาให้ป่าป๊าเข้าไปนั่งดูกับหนูบ้างตอนใกล้จบ พอละครจบเด็กๆ ส่วนมากก็ไปถ่ายรูปกับพี่ๆ นักแสดง แต่หนูไปถ่ายแฮะ หม่าม้าแอบเสียดายเลยอุตส่าห์พกกล้องไปด้วย แต่ไม่เป็นไรเพราะแค่หนูบอกว่า หนูชอบมาก อยากให้พามาดูอีกในวันรุ่งขึ้น หม่าม้าก็ดีใจแระ หนูรบเร้าอยู่หลายรอบเลยว่าให้พาไปดูอีก แต่วันรุ่งขึ้นโปรแกรมเราเต็มแล้ว ครั้นจะให้เข้ากทม.อีกเพื่อพาหนูมาดูอีกรอบก็ยังไงๆ อยู่ สงสารน้องด้วยละ ยังเล็กก็ตะลุยเที่ยวกับหนูหลายๆ ที่แล้ว


ละครจบแล้วหนูชอบมาก กลับมาร้องเพลงในละครตามพวกพี่ๆ ใหญ่เลย  อิอิ ถือว่าโปรแกรมที่จัดให้หนูประสบความสำเร็จนะเนี่ย ดีใจจังจ๊ะ

ดูละครเสร็จช่วงเย็นเราก็เข้าไปที่ Chatrium Resident กัน พื้นที่ของคอนโดอยู่ในบริเวณเดียวกับรร.Chatrium คอนโดของอาหยีอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาเลย ถูกใจหนูมากๆ ห้องพักก็กว้างขวาง เห็นวิวแม่น้ำสวยมากๆ มีอ่างอาบน้ำด้วย หม่าม้าเลยชวนหนูเล่นน้ำในอ่างซะเลย ป่าป๊าชวนหนูลงไปวิ่งเล่นที่สนามเด็กเล่นและไปดูปลาริมแม่น้ำกันตอนที่หม่าม้าให้นมน้อง ป่าป๊าชวนหนูไปซื้อขนมปังที่ 7-11 ใต้คอนโดไว้ไปให้อาหารปลาตอนเช้า


วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้วและหนูรีเควสอยากกินราเมง พอดีเลยที่นั่นมีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ เราเลยฝากท้องกันที่นี่ละ อาหารอร่อยถูกใจทุกคน หม่ำๆ เสร็จก็แวะช้อปปิ้งที่ 7-11 โชคดีที่นี่มีขาย bubble baht ด้วย หนูเลยได้เล่น bubble baht ในอ่างสมใจ แฮปปี้สุดๆ กลางคืนกว่าจะนอนกันเลยดึกกว่าปกติเพราะเจ่เจ้ตื่นเต้นอยากเม้าท์ พูดถึงเรื่องละครที่ไปดูมาไม่หยุด ส่วนน้องเกลก็คุยอ้อแอ้ๆ ตาม


น้องเกลนอนรอพวกเราหม่ำๆ กันในรถเข็น นอนนิ่งๆ มองโน่นมองนี่ได้สักพักก็เริ่มส่งเสียงโวยวายละ อยากจะให้อุ้มขึ้นมาดูรอบๆ อยากนั่งร่วมโต๊ะกับพวกเราบ้าง พออุ้มมานั่งที่โต๊ะด้วยกันละเงียบเชียว มองโน่นมองนี่ใหญ่


เช้าวันรุ่งขึ้นเราตื่นกันตั้งแต่ 6.30 น. แม่ให้นมน้อง ป่าป๊าชวนหนูล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวลงไปเดินเล่นริมแม่น้ำ ให้อาหารปลา ที่รร.เค้ามี shuttle boat ให้บริการด้วย หม่าม้าชวนหนูนั่งเรือเที่ยว หนูก็โอเค เช้านี้หนูสนุกกับการให้อาหารปลาที่ท่าเรือมาก มีปลาสวายตัวเบ่อเริ้มเต็มไปหมด



ระหว่างที่รอขึ้นเรือก็เหลือบไปเห็นรูปดวงตาที่หัวเรือ ป่าป๊าเรียกให้พี่เกรซดูสิ เรือลำนี้มีดวงตาที่ฉลาดล้ำเหมือนในหนังสือ "เรื่องของปิง" เป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลและทางมูลนิธิ SCG ได้นำมาแปลและขายในงาน "นิทานในสวน" ที่เราพาหนูไป นิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องโปรดของหนูอีกเรื่อง ทีแรกหม่าม้าคิดว่า ดวงตาที่ติดบนเรือจะมีแต่ในนิทานซะอีก ไม่เคยสังเกตุเห็นหรือรู้ว่ามันมีของจริงด้วย หม่าม้าเลยไปถามป้ากูเกิ้ลได้ความรู้มาว่า การที่เรือมีดวงตาเพราะเป็นความเชื่อของชาวประมง และดวงตานั้นก็คือ ยันต์ ที่ช่วยปกป้องเรื่องภูตผี ปีศาจ เพื่อให้เรือลำนั้นเดินทางได้อย่างปลอดภัย





เรานั่งเรือจากท่าเรือรร.ไปถึงท่าเรือสะพานตากสิน นั่งวนอยู่ 2 รอบ น้องเกลได้นั่งเรือครั้งแรกตั้งแต่อายุ 3 เดือนเลยน๊า ลมมันเย็นสบายจนน้องหลับไปเลย 555



ระหว่างนั่งเรือก็ชี้ให้พี่เกรซดูเรือลำสีเหลือง เป็นเรือเก็บขยะของกทม. อธิบายกันไปว่าทำไมต้องมีเรือเก็บขยะ คุยกันไปจนถึงเรื่อง ผักตบชวา หม่าม้าอธิบายหนูว่า ผักตบชวา มันแพร่พันธุ์เร็วมาก พอมันเยอะๆ ก็จะปิดผิวน้ำ ทำให้แดดส่องลงไปใต้น้ำไม่ถึง น้ำขาดอ๊อกซิเจน ก็จะทำให้ปลาตาย หนูถามต่อว่าผักตบชวามาได้ยังไง อืม...อันนี้หม่าม้าจำไม่ได้ ต้องให้ป่าป๊าช่วยตอบ ป่าป๊าบอกว่า รัชกาลที่ 6 เอาเข้ามาในประเทศไทยจากประเทศอินโดนีเซีย แต่พอกลับมาเช็คแล้วปรากฎว่าเป็นรัชกาลที่ 5 จ๊ะ ป่าป๊าจำผิดไป แต่ป่าป๊าก็เก่งนะจำได้ถูกว่าเอามาจากประเทศอินโดนีเซีย


นอกจากเรือเก็บขยะแล้วหนูยังได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเรือบรรทุกของที่พ่วงต่อกันหลายๆ ลำอีกด้วยจ๊ะ


ขึ้นจากเรือหนูกินนมหมดกล่องพอดี เรามองหาถังขยะแถวนั้นไม่เห็น แต่พอดีเห็นคุณป้าที่ทำหน้าที่ทำความสะอาดของรร. กำลังกวาดทำความสะอาดแถวนั้นอยู่เลยให้เจ่เจ้เอาขยะไปฝากคุณป้าทิ้ง และสิ่งสำคัญที่ป่าป๊าจะคอยย้ำและสอนหนูอยู่เสมอๆ คือ ให้ไหว้ขอบคุณทุกคน ทุกอาชีพ ที่ให้บริการและช่วยเหลือเรา เสียดายหม่าม้าถ่ายรูปตอนหนูไหว้ไม่ทัน


จากนั้นเจ่เจ้ก็แวะดูปลาหางนกยูงที่สระของรร. ปลาเยอะมาก หม่าม้าเลยเกิดไอเดียให้หนูลองบิขนมปังเล็กๆ แล้วจุ่มน้ำให้ปลามาตอดกินดู หนูชอบมาก บอกจั๊กกะจี้ดี



ให้อาหารปลาเสร็จไปต่อด้วยการปีนป่ายสนามเด็กเล่นเล็กๆ ด้านหน้ารร.กัน ก่อนที่จะขึ้นห้องอาบน้ำแต่งตัว หนูขอเล่น bubble bath ในอ่างอีกรอบ ก่อนจะไปเจอยายกับก๋งที่รร.บันยันทรี หม่าม้านัดยายกับก๋งไปกินติ่มซำบุฟเฟ่ต์กัน รร.นี้เราพาหนูมาตั้งแต่หนูอายุได้ประมาณ 5-6 เดือนเองน๊า หนูมาหลายรอบแล้ว คราวนี้หม่าม้าตั้งใจจะเลี้ยงยายเนื่องในโอกาสวันแม่และเลี้ยงวันเกิดก๋งไปพร้อมๆ กันเลย




More photos >> https://www.facebook.com/ratchalun/media_set?set=a.10153203924138731.561343730&type=3



No comments:

Post a Comment