Tuesday 18 January 2011

Grace @ 11 months

หลังๆ มานี่มัมมี้ยุ่งมากๆ จนไม่มีเวลาอัพเดทบล๊อกให้หนู ต้องอาศัยจดๆ เอากันลืม แล้วมาไล่อัพเดทกันอีกที


เดือนนี้น้องเกรซส่งจูบเป็นแล้ว แต่จะทำแบบกำมือไปแปะที่ปากแล้วก็สูดลมเข้าจมูกดังฟืดดดดด ก่อนจะส่งจุ๊บออกมา น่าร๊ากกกก หนูเป็นเด็กอารมณ์ดีเหมือนเดิมจ๊ะ


หนูเป็นเด็กรักเสียงเพลงมากก คงเป็นเพราะมัมมี้ให้หนูฟังเพลงเยอะตั้งแต่อยู่ในท้องมัมมี้ มีช่วงนึงที่ลุงอาร์ตเพื่อนป่าป๊ามาอยู่ที่บ้านเรา ลุงอาร์ตสอนให้หนูโยกหัวตอนฟังเพลง หนูก็ทำตาม ตลกมากๆ เพราะหน้าตาหนูไม่ได้ให้อารมณ์ด้วยเล้ยยย แต่ก็ดีนะพอครั้งต่อๆ มาหนูได้ยินเสียงเพลง เสียงจังหวะดนตรีเมื่อไหร่ หนูก็จะโยกหัวตามทุกครั้ง



นอกจากจะชอบโยกหัวเวลาได้ยินเสียงเพลงแล้ว หนูยังชอบรำๆ เหมือนเดิมอีกด้วย ป่าป๊าจะสอนน้องเกรซว่า เวลาหนูมีความสุขหรือชอบอะไร ก็ให้หนูรำๆ และตบมือ (อันนี้หนูเข้าใจคำสั่งดีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ) น้องเกรซเป็นเด็กบ้ายอ ชอบตบมือชมตัวเอง

หนูเป็นเด็กน่ารักมาก เวลาเล่นอะไรแล้วก็รู้จักเก็บเข้าที่ มัมมี้กับป่าป๊าสอนให้หนูรู้จักเล่นและเก็บของเล่นเองทุกครั้ง หนูเก่งมากลูก

พัฒนาการด้าน 2 ภาษาของน้องเกรซช่วงนี้พัฒนาไปได้เร็วมากๆ น้องเกรซเข้าใจประโยคคำสั่งต่างๆ ได้เยอะมาก บอกให้หยิบของส่งให้มัมมี้ เก็บของเข้าที่ก็ฟังรู้เรื่อง ทำตามได้


Mommy: Gracie...where is your foot?
Nong Grace: เอามือยกเท้าใส่หน้าแม่เล้ยยย

ทีแรกมัมมี้ก็ไม่แน่ใจว่าบังเอิญรึเปล่า รอสักพักเลยถามซ้ำใหม่ น้องเกรซก็เอามือยกเท้าใส่หน้ามัมมี้เหมือนเดิม โอเคจ้า เป็นอันว่า หนูรู้จัก foot แล้วเนอะ



ระบำหน้าท้อง
ป่าป๊าเป็นคนสอนหนู (ไม่รู้นึกยังไงนะเนี่ย) วันดีคืนดีก็เปิดพุงตัวเองให้น้องเกรซดู แล้วก็ ชึ่งๆ โป้งๆ ชึ่ง ทีนี้แหละพอหนูเจอมัมมี้ หนูก็คลานมาเปิดพุงมัมมี้ขอดูระบำหน้าท้องมัมมี้บ้าง วันดีคืนดีหนูก็ดูพุงตัวเองแล้วก็พยายามเต้นระบำหน้าท้องบ้างเหมือนกันค่า




เดือนนี้น้องเกรซไม่ยอมหม่ำๆ ข้าว ไม่รู้เพราะอะไร กินทีแต่ละมื้อนับช้อนได้ประมาณ 10 คำเอง แล้วก็ชอบป้อนมัมมี้ให้กินข้าวหนูด้วย ทั้งๆ ที่แต่ก่อนหนูกินง่ายกินดีมาก น้ำหนักหนูก็ยังไม่ขึ้นเหมือนเดิม เป็นเด็กตัวเล็ก แต่ยังดีนะที่หนูเป็นเด็กร่าเริงอารมณ์ดี ฉลาด หนูเป็นเด็กขี้แกล้ง เวลาที่ป่าป๊าหรือมัมมี้ป้อนข้าวหนูแล้ว หนูกินเลอะ มัมมี้ก้มลงไปเก็บเศษอาหารใต้เก้าอี้กินข้าวหนู หนูก็จะแกล้งยกเท้ามาเตะๆ แล้วก็หัวเราะชอบใจใหญ่

รู้จักชี้ตัวเองถูกแล้ว เวลาที่ป่าป๊าถามว่า "คนไหนน้องเกรซ" หนูก็จะเอานิ้วมาจิ้มที่ตัวเอง เวลาที่มัมมี้ถามว่า "Who is Gracie?" หนูก็จะเอานิ้วมาจิ้มตัวเองเหมือนกัน ถามว่าคนไหนปู่่ คนไหนย่า ก็ชี้ถูก พอถามถึงตัวเองก็วกนิ้วกลับมาชี้ที่หน้าอกตัวเอง

อีกเรื่องที่เป็นความภาคภูมิใจของมัมมี้ก็คือ จากการที่มัมมี้ป่าป๊าพาหนูสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนทุกคืน ตอนนี้น้องเกรซกราบพระเป็นแล้วจ้าาา มัมมี้ถามว่าไหนพระพุทธเจ้า หนูก็จะชี้ไปที่พระพุทธรูป มัมมี้บอกว่าน้องเกรซกราบพระ หนูก็ยกมือไหว้ได้ เก่งมากลูก

ไปเที่ยวประจำปีกับบ้านป่าป๊า

เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกๆ สิ้นปี ครอบครัวป่าป๊าจะต้องไปเที่ยวด้วยกัน ปีที่แล้วเราไปหัวหินกันตอนนั้นหนูยังอยู่ในพุงมัมมี้อยู่แล้ว ปีนี้ก็ต้องเลือกสถานที่ใกล้ๆ เหมือนเดิมเพราะหนูยังเล็ก ปีนี้เราไป สวนผึ้ง ราชบุรี กันจ๊ะ ไปพักที่ The Good View Resort ตอนที่จองที่พัก ที่ๆ อยากไปก็เต็มหมดแล้ว มาเลือกที่นี่เพราะเค้าบอกว่าใกล้กับบ้านอ้อมกอดขุนเขาที่มัมมี้กะป่าป๊าไปมา 2 รอบแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงที่นี่ต้องขับรถลึกเข้าไปอีกตั้ง 40 กิโล (อีก 4 กิโลก็จะถึงพม่าอยู่แล้ว) เลยไม่เหมาะกับการที่มีเด็กเล็กไปด้วยสักเท่าไหร่ ที่สำคัญบริเวณรีสอร์ทไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือเลย : (

แย่กว่านั้นก็คือ วันที่ไปเที่ยวกัน หนูเกิดไม่สบายตัวร้อนไข้ขึ้นระหว่างเดินทาง ป่าป๊าจอดรถช่วยกันป้อนยาหนู หนูก็งอแงไม่สบายตัว ร้องโยเยตลอดทาง จนมัมมี้ต้องอุ้มหนูไว้ให้หนูหลับ ทั้งๆ ที่ปกติหนูจะต้องนั่งคาร์ซีทที่ประจำของหนูตลอด มัมมี้ก็ปากหนักคิดๆ อยู่ว่าจะบอกป่าป๊าว่าเรายกเลิกกลับบ้านกันดีมั๊ยเพราะตอนที่หนูเริ่มป่วยตอนนั้นเราอยู่กันแถว ถ.ธนบุรีปากท่อ ป่าป๊าก็มีมาคุยกับมัมมี้ทีหลังเหมือนกันว่าคิดๆ เหมือนกับมัมมี้นั่นแหละแต่เกรงใจป้าพิงค์ที่นั่งรถมาด้วยกัน กว่าเราจะออกจากพัทยาก็สายมากแล้ว รถลุงหนุ่มกับคนอื่นๆ เค้าไปถึงสวนผึ้งก่อนเราเป็นชั่วโมง

พอไปถึงที่พักป้าพิงค์ก็แยกไปกับรถลุงหนุ่มไปเที่ยวฟาร์มกระต่ายกัน ส่วนป่าป๊า มัมมี้ และน้องเกรซก็เข้าห้องพัก รีบพาหนูไปวัดไข้กินยาอีกรอบให้หนูนอนพัก หนูน่าสงสารมากๆ หลับไปเพราะเพลีย ต้องให้มัมมี้นอนข้างๆ นอนกรนด้วย คงเป็นเพราะนั่งรถนานด้วย (จากพัทยามาสวนผึ้ง รวมแวะกินข้าว ก็ร่วม 5 ชม)

ตกเย็นก็สั่งข้าวต้มมาให้หนูกิน หนูกินไปได้ไม่กี่คำ ก็ชงนมให้หนูกินนมตาม หนูมีอาการท้องผูกด้วย อึไม่ออก พาเบ่งอึหน้าแดงทีก็ไข้ขึ้น เราคุยกันว่าพรุ่งนี้เช้าจะพาหนูเข้ากรุงเทพไปหาหมอกัน เพราะอยูที่นี่ไม่ไหวแน่ๆ ไกลมาก แถมติดต่อใครก็ไม่ได้ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ ที่พักสวย วิวดีแค่ไหน ก็ไม่ได้สนใจกันแล้วตอนนั้น ทั้งๆ ที่ทีแรกตั้งใจว่าจะพาหนูไปดูแกะในรีสอร์ทด้วยนะเนี่ย ก่อนไปเที่ยวมัมมี้อุตส่าห์สอนคำว่า sheep ให้น้องเกรซ ให้ดูจากรูป พามาเห็นของจริงหนูจะได้จำได้

มัมมี้กะป่าป๊าก็คอยเช็ดตัวให้หนู แต่เราไม่ได้ถอดเสื้อผ้าหนูออกเพราะอากาศมันเย็น (มารู้ทีหลังมาเป็นการเข้าใจผิดและทำให้ไข้หนูไม่ลด) ตอนนั้นวัดไข้น้องเกรซได้เกือบ 38 ก็ให้กินยาลดไข้ กิน air-x พอประมาณ 3 ทุ่มกว่า หนูหลับไปแล้วตื่นร้อง วัดไข้หนูใหม่อีกรอบ ไข้ปาเข้าไป 38.5 ป่าป๊าบอกว่าพาหนูไป รพ กันดีกว่า ถามทางรีสอร์ทได้ความว่า รพ ที่ใกล้ที่สุด คือ รพ สวนผึ้ง ซึ่งก็ต้องขับรถไปอีก 40 กว่าโล เราโทรเรียกรถกอล์ฟให้มารับที่ห้องไปที่จอดรถ หยิบเสื้อหนาวให้หนูใส่เพราะตอนนั้นอากาศเย็นลงไปอีก หนาวเลยแหละ มัมมี้คว้ากระตร้ายา น้ำ นมหนูติดไปด้วย ไม่ลืมที่จะเอาผ้าห่มคลุมตัวหนูด้วยเพราะตอนนั่งรถกอล์ฟหนาวและมีลม ป่าป๊าเป็นคนอุ้มหนูขึ้นรถกอล์ฟ พอไปถึงรถทีแรกป่าป๊าจะขับแต่พอดีหนูทำท่าจะหลับเลยให้มัมมี้ขับแทน โอ้โห มัมมี้เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นคนไม่มีสติ ลนไปหมด ยังโชคดีที่ป่าป๊าสติดีคอยบอกให้มัมมี้ใจเย็นๆ ทางไป รพ ก็ขับยากมาก ไฟถนนไม่มี มืด มองไม่ค่อยเห็น ยิ่งกลางคืนมัมมี้ก็ตาไม่ค่อยดีซะด้วย ห่วงหนูก็ห่วง ทางก็เลี้ยวไปเลี้ยวมา ยังดีนะที่หนูไม่ร้องแล้ว ป่าป๊าอุ้มหลับได้

ไปถึง รพ ป่าป๊ารีบพาหนูลงไปก่อน มัมมี้เอารถไปจอด พอตามเข้าไปเห็นพี่พยาบาลจับหนูถอดเสื้อผ้าหมดเช็ดตัวให้หนู หนูก็ร้องงอแงใหญ่ ตอนนั้นวัดไข้หนูได้เกือบ 39 องศา เป็นเพราะตั้งแต่ตอนที่นั่งรถกอล์ฟจนถึง รพ ป่าป๊ามัมมี้กลัวหนูหนาว เลยโหมกระหน่ำให้หนูใส่ทั้งเสื้อหนาวทั้งห่มผ้าห่อหนูเอาไว้ ไข้เลยขึ้นสูง (เป็นบทเรียนของพ่อแม่มือใหม่เลย เราไม่รู้ว่าไม่ควรทำแบบนี้) โชคดีนะที่น้องเกรซไม่ชัก พี่พยาบาลเลยต้องรีบเช็ดตัวให้หนู เช็ดตัวอยู่ประมาณ 15 นาทีจนไข้ลง แล้วก็ป้อนยาลดไข้ให้น้องเกรซ ตอนนั้นน้องเกรซก็มีอาการดีขึ้น มัมมี้เลยชงนมให้หนูกิน โชคดีที่หนูกินได้ดี พี่พยาบาลลองเอาน้ำเปล่าดูดใส่ไซริงค์ให้กินหนูก็กินดี กินไปเยอะทีเดียว วัดไข้อีกทีก็ไข้ลดแล้ว

ระหว่างที่มัมมี้ป้อนนมหนู ป่าป๊าก็เอารถไปหาที่เติมแก๊ซเพราะแก๊ซใกล้หมด วุ่นวายกันน่าดู เนื่องจากไม่คิดว่าทางเข้าออกรีสอร์ทมันจะลึกขนาดนี้

ที่ รพ สวนผึ้ง เป็น รพ ชุมชนเล็กๆ ไม่มีหมอเด็กอยู่ ปรึกษากับพี่พยาบาลเค้าแนะนำว่าไม่ควรให้หนู admin เพราะห้องผู้ป่วยเด็กไม่มีห้องเดี่ยว และห้องรวมก็เป็นเด็กโตกว่าหนู หลายคนไอและเป็นไข้มาลาเรียด้วย
มัมมี้ถามป่าป๊าว่าจะพาหนูกลับ กทม คืนนี้เลยดีมั๊ย เพราะมัมมี้โทรเช็ค รพ BNH ที่หนูหาหมออยู่ประจำแล้ว ไปดึกแค่ไหนเค้าก็มีคุณหมอเด็กอยู่ที่แผนกฉุกเฉิน ถ้ากลับเราก็ต้องกลับเข้ารีสอร์ทไปเก็บของก่อน จะโทรบอกให้ลุงหนุ่มเอาของมาให้ก็ติดต่อไม่ได้เพราะที่รีสอร์ทไม่มีสัญญานโทรศัพท์ โทรเข้ารีสอร์ทที่เป็นเบอร์มือถือก็ไม่มีคนรับสาย ปรึกษาพี่พยาบาลเค้าบอกว่าฟังเสียงปอดหนูแล้วปกติดี ไม่ได้ติดเชื้ออะไร น่าจะเป็นไข้หวัดธรรมดา ถ้าคุณพ่อคุณแม่สามารถตื่นมาคอยเช็ดตัวให้ลูกและให้ลูกกินยาทุกๆ 4 ชั่วโมงได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร สุดท้ายป่าป๊าเคยอาการหนูดีขึ้นเลยตัดสินใจกลับไปนอนที่รีสอร์ทแล้วตอนเช้าค่อยเข้ากรุงเทพกันเพราะอย่างน้อยน้องเกรซจะได้นอนพักด้วย

กลับมาถึงห้องพักก็ให้น้องเกรซและป่าป๊านอน เพราะป่าป๊าขับรถเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว มัมมี้มานั่งกินข้าวเย็นก่อนเพราะไม่มีเวลากินข้าวเลยตั้งแต่เย็น อาบน้ำนอนเข้านอนตอนเที่ยงคืนกว่าๆ สักพักหนูทำท่าเบ่งอึ๊ทั้งๆ ที่ยังครึ่งหลับครึ่งตื่น มัมมี้ดมดูได้กลิ่นอึ แต่เห็นหนูหลับต่อเลยไม่ได้เปลี่ยนแพมเพริ์สให้ มัมมี้ตั้งนาฬิกาปลุกตื่นตอนตีสองมาวัดไข้หนู หนูเริ่มไข้ขึ้นอีกรอบแต่ยังหลับได้อยู่ ถามป่าป๊าว่าให้ปลุกหนูมากินยามั๊ย ปาป๊าบอกว่ารออีกสักพัก แป๊บนึงหนูก็เริ่มตื่นร้องเลยจับหนูเช็ดตัว เปลี่ยนอึ๊ กินยา กินนม สักพักหนูก็หลับต่อ

ตอนเช้าประมาณ 7 โมงกว่าน้องเกรซตื่น ไข้แทบจะไม่มีแล้ว แต่ก็ยังให้หนูกินยาลดไข้ต่อ สั่งข้าวต้ม อาหารเช้ามาส่งที่ห้อง หนูกินไปได้พอสมควร กินนมตาม คืนนั้นทั้งอากง หย่าย๊า ทุกคนไม่ได้นอนกันเลยตอนที่เราพาน้องเกรซไป รพ เค้ารอเรากลับมา ทุกคนเป็นห่วงหนูมาก ตอนเช้าก็รีบมาเยี่ยมน้องเกรซกัน

เช้านี้หนูอาการดีขึ้นมาแล้ว เริ่มเล่นได้ มัมมี้เลยแชะรูปหนูมาได้นิดหน่อย ทริปนี้เป็นทริปที่ถ่ายรูปน้อยที่สุดเลยนะเนี่ย


น้องเกรซเอามาม่ามาตีเล่นเป็นกลอง




ถ่ายรูปหมู่ก่อนพาหนูกลับกรุงเทพ หย่าย๊าบอกว่าไม่เป็นไรไว้ทริปหน้าค่อยมาเที่ยวกันใหม่

บทเรียนครั้งนี้
  1. ควรเช็คเรื่องที่พักให้มั่นใจว่า อยู่ไม่ไกลจาก รพ เกินไปนัก เผื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น
  2. เรื่องสัญญาณโทรศัพท์ อันนี้เป็นอะไรที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายจริงๆ เพราะไม่คิดว่าจะไม่มีสัญญานโทรศัพท์ได้ เดี๋ยวนี้ไปไหนๆ ขนาดบนดอยยังมีสัญญานโทรศัพท์ใช้เลย นี่อะไรกันแค่ราชบุรีเอง ทางรีสอร์ทก็ไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ให้ลูกค้ารู้ แถมตอนจองที่พักก็ยังบอกว่าใกล้บ้านอ้อมกอดขุนเขาอีก ซึ่งความจริงเข้าไปอีกตั้งลึก 
  3. ถ้าเด็กเล็กมีไข้ขึ้นสูง ควรถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วเช็ดตัวด้วยน้ำอุณหภูมิห้องอย่างน้อย 15 นาที ให้เช็ดในลักษณะเช็ดขึ้น จนไข้ลด ห้ามใส่เสื้อผ้าหนาหรือห่อตัวน้องเด็ดขาด เพราะยิ่งจะทำให้ไข้สูงขึ้น


Bye bye...

No comments:

Post a Comment