Saturday, 22 November 2014

Japan D5: Lake Kawacuchiko


วันนี้แม่กับป่าป๊าตื่นก่อน 6 โมงเช้านิดนึง มองไปนอกหน้าต่าง โอ้โห...เรา 2 คน ตื่นเต้นกันมาก เพราะมองเห็นฟูจิซังชัดมาก เป็นภาพที่สวยแปลกตาไปจากเมื่อวาน ฟูจิซังเช้านี้เป็นสีชมพูอ่อนๆ สะท้อนแสงอาทิตย์ที่เพิ่งขึ้น สวยมากๆ


ระหว่างที่แม่กับป่าป๊าตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ ชื่นชมฟูจิซัง น้องเกรซก็นอนดูดนิ้ว หลับปุ๋ย หลับสบาย ไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่เล้ยย


แม่ขอป่าป๊าออกไปเดินเล่น ถ่ายรูปรอบๆ รร.สักหน่อย อากาศหนาวได้ใจเลย ได้วิวสวยๆ มากเพียบเลย แต่ฟูจิซังเนี่ย ดูในรูปยังไงก็ไม่สวยเท่าของจริง เทียบกันไม่ติดเลย ของจริง มันยิ่งใหญ่มากๆ


โรงแรมรายล้อมรอบ Lake มีถนนเล็กๆ ให้เดินเล่น ชิลล์สุดๆ แต่ก็หนาวมากสุดๆ เช่นกัน


เดินกลับมาถึงหน้ารร. เพิ่งสังเกตุเห็นแฮะว่า เค้ามีป้าย Kittipong ติดต้อนรับครอบครัวเราตั้งแต่เมื่อวานด้วย


ป้ายบอกการใช้ออนเซ็นในรร. ชั้น 1 และ ชั้น 7 ผู้หญิงและผู้ชายสลับกันใช้ตามเวลาที่ติดไว้ และหน้าห้องจะมีผ้าติดไว้ ถ้าสีแดงคือ ผู้หญิง สีน้ำเงิน คือ ผู้ชาย


แม่กลับมาผลัดให้ป่าป๊าขึ้นไปแช่ออนเซ็น หลังจากปลุกน้องเกรซตื่นจับอาบน้ำแต่งตัว เราก็ลงมากินอาหารเช้าข้างล่างกัน นั่งโต๊ะเดิมเหมือนเมื่อคืน อาหารอลังการและอร่อยไม่แพ้เมื่อคืนเลย



ที่ญี่ปุ่นนี่เค้าใส่ใจและให้ความสำคัญกับเด็กจริงๆ อุปกรณ์การกินอาหาร ห้องน้ำตามที่สาธารณะเตรียมไว้สำหรับเด็กทุกอย่าง น้องเกรซชอบมาก อย่างมื้อเช้านี้จาน ชาม ช้อนส้อม ลายน่ารักจริงๆ
 






โปรแกรมวันนี้เราจะไปเที่ยวรอบๆ เลคกัน ที่รร.เค้ามีแผ่นพับบอกสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รอบเลครวมถึงจุดรอรถให้ด้วย ดูจากเวลาและปรึกษากันแล้ว สรุปเราจะไปกัน 2 ที่ คือ Music Forest และ Monkey Show เพราะเย็นนี้เรามีกำหนดนั่งรถบัสกลับไปที่โตเกียวกัน

เดินออกจากรร.มาแค่ 5 นาทีก็ถึงจุดรอรถ Metro Bus ระหว่างทางก็ขอแชะภาพครอบครัวกับฟูจิซังสักหน่อย ตอนนี้ฟูจิซังหน้าตาสวยแปลกไปอีกแบบละ







หน้าตารถ Metro Bus ที่จะพาเราเที่ยวกัน ป่าป๊าซื้อตั๋วไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เป็นตั๋วที่ใช้ได้ 2 วัน สำหรับนั่งรถเที่ยวรอบๆ เลค

 
 

ถึงแล้วจ้า Music Forest เราจะใช้เวลาที่นี่กันประมาณ 2 ชั่วโมง ที่นี่จะมีทุกอย่างเกี่ยวกับดนตรี ทั้งกล่องเพลง ทั้งน้ำพุเต้นระบำ เยอะมาก แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว : )


เข้าไปข้างใน ว๊าววว สวยมากเลย อากาศดี วิวดีสุดๆ มองเห็นฟูจิซังด้วย



 
บริเวณหน้าหอนาฬิกานี้ จะมีโชว์น้ำพุเต้นระบำ และมีตุ๊กตาออกมาจากหอนาฬิกาโชว์ให้เราดู
 
 
 


 
บริเวณรอบๆ ก็จะมีเครื่องดนตรี อุปกรณ์แปลกๆ ที่ทำให้เกิดเสียงดนตรีได้ อันนี้เป็นเหมือนท่อมีไม้ให้ตี ตีแล้วจะเกิดเสียงต่างๆ กันไป น้องเกรซมันส์มาก 555


บ่อน้ำพุที่เราเห็นคนโยนเหรียญลงไปแล้วอธิษฐาน
 

ด้านในแต่ละอาคารและมีโชว์ต่างๆ ตามเวลาที่เค้ากำหนด เป็นโชว์ของกล่องเพลง เครื่องดนตรีทั้งหมด อลังการมากๆ พวกตุ๊กตาทุกตัวที่เห็นพอถึงเวลาโชว์ก็จะเล่นเครื่องดนตรีที่ตัวเองถืออยู่ พร้อมกับขยับไปมา เหมือนดูคอนเสริ์ตจากตุ๊กตามีชีวิตหลายๆ ตัวอย่างไงอย่างงั้น
 
 
ในห้องโถงก็จะมีโซฟา มีโต๊ะ เก้าอี้ ให้เรานั่งชม


 
กล่องเพลงอันนี้เค้าให้เราหมุนได้ พอหมุนไปเรื่อยๆ ก็จะมีเสียงเพลงเพราะๆ ออกมา แต่ต้องหมุนด้วยความเร็วและจังหวะที่สม่ำเสมอ น้องเกรซตัวเล็กแรงน้อย เพลงเลยไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าไหร่
 
 

 
เดินออกมาด้านนอกตึก มาเจอเจ้านี่ คล้ายๆ กับโมบายบ้านเรา พอเอามือไปจับมันจะกระทบกันกลายเป็นเสียงเพลง เด็กสนุกได้อีกละ
 

 
ตึกนี้ด้านในจะเป็นร้านขายของฝาก พวกเครื่องหอมต่างๆ มีตั้งแต่โลชั่น น้ำหอม แฮนด์ครีม สบู่ แชมพู สารพัด หอมมาก รวมถึงของกระจุกระจิกน่ารักๆ เพียบ เข้าไปทีเสียทรัพย์ไปหลายอยู่
 
 


 
 
เดินออกมา อากาศดีสุดๆ วิวก็สุดๆ สวยมากๆ
 


มีมุมเครื่องดนตรีให้เด็กเล่นอีกละ เดินเล่นชิลล์ๆ แวะได้ตลอดทาง

 
ร้านขายของฝาก ร้านสุดท้ายใน Music Forest ที่เราหลุดเข้าไป ของเยอะมาก ใช้เวลาในนี้นานจนเพลินเลยละ เดินเข้าประตูมาเจอเจ้านี่ก่อนเลย ตุ๊กตาหมาตัวโต ขยับได้ น่ารักมาก น้องเกรซเล่นอยู่พักนึงกว่าจะเดินเข้าไปข้างในต่อได้
 
 
เข้ามาด้านในทั้งแม่ ทั้งน้องเกรซต่างกรี๊ด ตื่นตา ตื่นใจมาก ของฝากน่ารักๆ เพียบเลย อันนี้เป็นที่แขวนกำแพง ทำจากแก้วสีๆ เพ้นท์ลายนกฮูก มีเชือกให้ดึง พอเราดึงก็จะมีเสียงเพลง แม่ให้น้องเกรซช่วยเลือกซื้อไปฝากอาอาทกะอาอ้อ


 
น้องเกรซช้อปปิ้งใหญ่เลย หยิบชิ้นโน้นชิ้นนี้ มันน่ารักทุกชิ้นจริงๆ

 
กรอบรูปที่เป็นกล่องเพลงด้วย พอไขลานจะมีเสียงเพลงและตุ๊กตา 2 ตัวด้านบนก็จะโยกไปมา

 
ของแทบทุกชิ้นจะเป็นกล่องเพลงด้วย เจ้า 3 ตัวนี้ก็เหมือนกัน พอไขลานจะมีเสียงเพลงและโยกไปมา



 
ด้านในจะมี 2 ชั้น ชั้นล่างจะขายกล่องเพลง เครื่องประดับ ชั้นบนจะมีขายพวกเครื่องเขียน และมีมุมให้ทำ workshop ได้ด้วย



 
เหลือบดูนาฬิกาอีกทีใกล้หมดเวลาต้องไปที่อื่นต่อละ พอเดินออกมาจากร้านขายของฝาก ก็มาเจอสิ่งนี้ ระฆังอันเล็ก อันใหญ่ วางเรียงกันเต็มไปหมด ยกแต่ละอันขึ้นเขย่าจะทำให้เกิดเสียงดนตรีเพราะๆ ได้อีก
 

 
เสียดายต้องไปต่อที่อื่นซะแล้ว จริงๆ ใน Music Forest ก็มีร้านอาหารที่เราสามารถสั่งอาหารมานั่งกินพร้อมกับดูวิวสวยๆ ตรง terrace ด้านหน้าไปด้วยได้นะ
 
 
ออกมาด้านหน้า รอรถ Metro Bus ต่อ
 
 
แผนที่เส้นทางเดินรถ Metro Bus ที่จะพาเราเที่ยวชมจุดต่างๆ รอบๆ เลค

 
หิมะเต็มไปหมด

 
เรานั่งรถ Metro Bus มาลงที่จุดต่อไปที่เราจะไปดู Monkey Show กัน แม่กับป่าป๊าไม่ได้แพลนหาร้านอาหารไว้ เอาสะดวกเข้าว่า โชคดีฝั่งตรงข้าม Monkey Show มีร้านอาหารพอดี ร้านดูน่ารักดี กินร้านนี้ละกัน
 
 
แต่งร้านเป็นรูปแมวแฮะ

 
ในร้านคนเยอะพอควร คงเป็นเพราะเที่ยงพอดี เราต้องทำเวลากันละ เลือกเมนูสั่งอาหารได้แล้ว ให้ป่าป๊าข้ามถนนไปซื้อตั๋ว Monkey Show ก่อนเลย


 
เห็นโต๊ะอื่นสั่งพิซซ่ากัน เลยสั่งบ้าง อร่อยดีแฮะ

 
รูปตอนดู Monkey Show ไม่ค่อยมีเพราะเค้าห้ามถ่ายรูป ให้ถ่ายเฉพาะช่วงที่เค้าบอกให้ถ่ายได้ คนดูส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นทั้งนั้น โชว์ก็เป็นภาษาญี่ปุ่นแต่จะมีหน้าจอแปลเป็นภาษาอังกฤษไว้ให้ มีเจ้าจ๋อ 2 ตัวออกมาแสดง ฉลาด น่ารักมากๆ ดูกันไปขำกันไป
 
 
ตอนออกมาน้องเกรซได้จับมือแชะรูปกับนักแสดงด้วยน๊า 555

 
ขนมที่เป็นของฝากอยู่ใน Monkey Show คนญี่ปุ่นเค้าใส่ใจพวก packaging มากๆ เรามาดูโชว์ลิง ขนมของฝากก็ต้องมีรูปลิง

 
 
เวลาหมดละ ต้องกลับรร. ให้รถรร.ไปส่งที่สถานีรถบัสที่เรามาลงเมื่อวานนี้เพื่อนั่งรถบัสต่อกลับไปยังโตเกียว
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 










No comments:

Post a Comment