Thursday, 16 September 2010

ป่วยครั้งแรก

น้องเกรซป่วยเป็นครั้งแรกในชีวิตตอนอายุ 8 เดือน 10 วัน

- วันศุกร์ที่ 10 กย 53 -
  • ตอนเย็นป่าป๊ามาจากพัทยามาหาหนูกับมัมมี้ที่บ้านคุณยาย คืนนั้นป่าป๊าบ่นๆ กับมัมมี้ว่าเจ็บๆ คอ แต่ป่าป๊าก็ไม่ได้มีไข้อะไร

- วันเสาร์ที่ 11 กย. 53 -

  • เช้าวันเสาร์น้องเกรซก็เริ่มมีอาการไอแค่กๆ ไม่สบายตัวรุ่มๆร้อนๆ มีไข้ต่ำๆ ป่าป๊าเลยเดาว่าหนูน่าจะติดจากป่าป๊าตอนช่วงเช้ามืดที่หนูตื่นมากินนมแล้วพอกินเสร็จมัมมี้ก็ให้หนูนอนต่อบนเตียงเดียวกับมัมมี้ป่าป๊า

  • จริงๆ วันนี้หนูมีคิวไปว่ายน้ำด้วย แต่พอหนูไม่สบายทุกอย่างก็งดหมด ช่วงบ่ายๆ ดูอาการแล้วหนูไม่ดีขึ้น ซึมๆ เราเลยตัดสินใจพาหนูไปหาหมอกัน

  • ก่อนจะไปก็วุ่นพอควรเพราะน้องเกรซไม่มีหมอประจำ ตอนที่หนูเล็กๆ หนูเกิดที่ รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ พอหนูไปอยู่พัทยาก็มีหมอประจำที่นั่น (แต่ตอนนี้ป้าหมอคนนั้นก็ไม่ได้ทำงานแล้ว) ทีนี้พอหนูต้องฉีดวัคซีนเราก็พาหนูไปคลินิคที่ลุงกันต์แนะนำแถวเพชรเกษม แต่หนูไม่สบายจริงๆ คลินิคก็เปิดตอนเย็น รอไปก็ไม่ไหว จะไปสมิติเวช ศรีนครินทร์ก็ไกลบ้าน เคยไปรพ.เจ้าพระยาแถวบ้านก็ไม่ประทับใจหมอ มัมมี้อยากให้หนูมีหมอประจำที่ไม่ไกลจากบ้านนัก สุดท้ายลองถาม Mr.Google แล้วเราก็เลือกไป รพ.BNH กันจ๊ะ ที่นี่มีคุณหมอเด็กเก่งๆหลายคน ได้ยินชื่อคุณหมอสุธีราคนพูดถึงเยอะ แต่คิวยาวมาก เราเลยเลือกคุณหมอปวินทราแทน คุณหมอน่ารักใจดี อายุยังไม่มาก อธิบายจนเราเข้าใจ ให้เราถามจนหมดคำถาม หน่อยกับเคนธีรเดชที่เป็นดาราดังเค้าก็พาลูกเค้ามาหาคุณหมอปวินทราเหมือนกันจ๊ะ

  • ช่วงบ่ายพาน้องเกรซไปหาหมอได้ยาแก้ไอละลายเสมหะ ยาลดน้ำมูก มากิน ยาแก้ไอละลายเสมหะเนี่ยกินวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร ส่วนยาลดน้ำมูกกินวันละครั้งก่อนนอน ยาลดไข้ที่บ้านมีอยู่แล้วก็ให้กินตอนมีไข้

  • คุณหมอบอกว่าหนูเป็นหวัด ก็น่าจะเป็นเชื้อตัวเดียวกับป่าป๊าหนูนั่นแหละ ถ้ามีอะไรก็ให้โทรหาหมอได้

  • เย็นวันนี้ป่าป๊าก็รีบไป รพ. ฉีดยาเลยนะ จะได้หายเร็วๆ ป่าป๊ารู้สึกผิดมากที่ทำให้หนูป่วย สงสารหนูจัง

  • ตกกลางคืนป่าป๊าโดนจับแยกห้องนอน จะมีมัมมี้นอนกับหนูคนเดียว

  • พออากาศเย็นหนูก็เริ่มงอแง ไม่สบายตัว ร้องโยเย หายใจไม่ออก มีน้ำมูก มีเสมหะ มีไข้ครบสูตร ตกดึกมัมมี้จับหน้าผากหนูตัวร้อนเชียว มีไข้ขึ้นอีกแล้ว มัมมี้ก็รีบอุ้มหนูไปปลุกป่าป๊าอีกห้องมาช่วยกันเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น ป้อนยาลดไข้ให้หนูกิน

  • ถ้าดูตารางนอนตอนกลางคืนของน้องเกรซจะเห็นว่าหนูตื่นบ่อยมากๆ นอนรอบละ 1-1.5 ชม แล้วก็ตื่นร้อง ไม่สบายตัว มัมมี้แทบไม่ได้นอนทั้งคืนต้องคอยอุ้มหนู อุ้มขึ้นมาหนูก็คงง่วงมากๆละ อุ้มปั๊บเอาหัวมาซบไหล่มัมมี้ปุ๊บแบบหมดเรี่ยวหมดแรง พอวางนอนหนูก็ร้องใหม่ ติดให้อุ้มมากๆ เช้ามามัมมี้งี้โทรมเป็นหมีแพนด้าไปเลย (เอ๊ะๆ คืนนี้ยังเพิ่งเริ่มต้น ยังมีอีกหลายๆ คืนตามมาอีกยาว มัมมี้อดนอนทั้งอาทิตย์กว่าหนูจะดีขึ้น เล่นเอา นน ลดลงไปอีกโล ผอมสเลนเดอร์ไปเลยจ๊ะ)
  • พูดถึงเรื่องกินยา หนูเป็นเด็กกินยายากมากๆ มัมมี้สงสารหนูทุกครั้งที่ต้องกินยา แต่ป่าป๊าบอกว่าสงสารเหมือนกันแต่ก็ต้องให้กิน ไม่งั้นหนูไม่หายจะเป็นหนักขึ้น เดี๋ยวก็ต้องไปนอน รพ หรอก ซึ่งมัมมี้ก็เห็นด้วยเลยต้องใจแข็งบังคับหนูกินยา

  • เวลาที่จะป้อนยาหนู ก็ใช้วิธีที่ป้าหมอที่คลินิคเคยป้อนวัคซีนโรต้าให้น้องเกรซ โดยการจับน้องเกรซนอนราบ แล้วมีคนช่วยเอามือจับหัว จับแขนขาหนูไม่ให้ดิ้น แล้วบีบปาก เอายาใส่ไซริ้งฉีดเข้ากระพุงแก้มหนู โอ๊ย...น้องเกรซร้องไห้บ้านแทบแตก ดิ้นๆ ร้องน้ำหูน้ำตาไหล เหงื่อแตกเต็มตัว กว่าจะป้อนเสร็จก็เหนื่อยกันไปทั้งคนป้อนและคนถูกป้อน คุณตาคุณยายเห็นก็จะสงสารหนู ไม่อยากให้กิน แต่ไม่กินไม่ได้เดี๋ยวหนูไม่หาย หนูก็สุดยอดเป็นเด็กฉลาดจริงๆ กินเสร็จพออุ้มขึ้นมาก็จะพยายามเค้นให้อ๊วกออกมา หลายครั้งเลยที่ป้อนแล้วหนูอ๊วกออกมาหมด ทำให้หนูได้ยาไม่ครบ อาการไข้หนูก็ยังมีอยู่ พอกินยาลดไข้ก็ตัวไม่ร้อนเหมือนจะดีขึ้น พอยาหมดฤทธิ์ก็ไข้ขึ้นอีก
-วันจันทร์ที่ 13 ก.ย. 53 -

  • ผ่านไป 2 วันอาการไข้น้องเกรซยังไม่หาย พอยาหมดฤทธิ์ก็ตัวร้อนอีก มัมมี้ก็เลยลางาน ป่าป๊าก็ยังไม่กลับพัทยาอยู่ กทม ช่วยกัน

  • ตื่นแต่เช้ามัมมี้เลยโทรหาหมอที่ รพ พยาบาลดันบอกว่าคุณหมอจะโทรกลับเฉพาะตอนที่คุณหมอออกตรวจที่ รพ เท่านั้น เช้านี้คุณหมอไปตรวจที่ รพ เด็ก ทางพยาบาลต้องรับเรื่องไว้ก่อน พอคุณหมอเข้าตอนบ่ายแล้วจะให้คุณหมอโทรกลับ ป่าป๊าโมโหคุยไปคุยมาก็แค่ให้ทางพยาบาลลองโทรหาหมอดูถ้าหมอว่างก็ให้หมอโทรกลับมาแค่นั้นเอง สุดท้ายก็ได้คุยกับคุณหมอ คุณหมอบอกว่าให้พามาให้หมอดู แต่คิวหมอยาวมากกว่าจะว่าง 3.30 คุณหมอบอกว่าเสร็จจาก รพ เด็ก แล้วจะรีบเข้ามา เดี๋ยวจะลัดคิวให้

  • เราเลยพาหนูกลับไปรพ.ให้คุณหมอดูใหม่ ไปรอตั้งแต่เที่ยง คุณหมอมาถึงเที่ยงนิดๆ เลยได้ตรวจเลย คุณหมอน่ารักมากรีบตรวจให้ทั้งๆที่ยังไม่ได้กินข้าว ตรวจหนูเสร็จหมอถึงไปกินข้าวจ๊ะ

  • คราวนี้เลยขอให้คุณหมอตรวจว่าหนูจะติดเชื้อไข้หวัด 2009 รึเปล่า เพราะมันกำลังระบาด ได้ยินมาว่าตาม รพ. ต่างๆ ห้องคนไข้เต็มหมดเพราะคนไม่สบายเยอะ วิธีตรวจเค้าก็เอาก้านไม้สำลียาวๆ แหย่เข้าไปในรูจมูกหนูให้ลึกๆ ขูดเอาเมือกในจมูกไปตรวจ รอผล 40 นาที สรุปว่าหนูเป็นแค่หวัดธรรมดา

  • สงสัยหนูจะกลัวหมอแฮะ พอพาไปให้คุณป้าหมอตรวจหนูก็ทำท่ากระปรี้กระเป่าอาการดีขึ้นซะงั้นละ ไม่ซึมๆ เหมือนอยู่บ้าน คุณหมอบอกว่าน่าจะใกล้หายแล้ว

  • คุณหมอให้ยาฆ่าเชื้อเผื่อมาด้วย บอกว่ายังไม่ต้องกิน อีก 2 วันหนูน่าจะหายเองได้ ยังไม่อยากให้กินยานี้ ถ้ายังมีไข้อยู่แล้วไข้สูงเกิน 37.7 ก็ค่อยให้กินยาฆ่าเชื้อ คุณหมอแนะนำให้เราไปซื้อที่ดูดน้ำมูกแบบเป็นสายแล้วเอาปากดูดเข้ากระเปาะแก้วของ Peigen มาดูดน้ำมูกให้หนู แล้วก็ไปซื้อที่วัดไข้เด็กแบบยิงใส่หู เพราะที่เรามีอยู่เป็นแบบเสียบจักกะแร้กับติดหน้าผากซึ่งเหมาะสำหรับเด็กโตไม่ใช่เบบี๋แบบน้องเกรซ ออกจาก รพ. เราก็พาหนูกลับบ้านให้คุณยายช่วยดูแล้วก็รีบออกไปศิริราชกับเซ็นทรัลซื้อของให้หนูต่อ

  • ได้ที่ดูดน้ำมูกมาเราก็จัดแจงเอาน้ำเกลือหยอดจมูกหนูแล้วก็ดูดน้ำมูกออกให้ น้องเกรซก็ดิ้นร้องโวยวายอีกตามระเบียบ (แต่ก็มีแอบอยากจะจับสายที่ดูดน้ำมูกเล่นด้วยนะ เพราะปกติหนูชอบเล่นอะไรที่เป็นสายๆจ๊ะ)

  • ฮ๋อ ไปหาหมอรอบนี้คุณหมอมีจ่ายยาหยอดจมูกมาให้เพิ่มด้วย ให้หยอด 3 วันจะช่วยให้หนูหายใจดีขึ้นเพราะหนูจมูกบวมแดง คอก็แดงมากขึ้นด้วย

  • ตกกลางคืนหนูก็โยเย ไข้ขึ้นอีกเหมือนเดิม
- วันอังคารที่ 14 ก.ย. 53 -

  • ตอนไปหาคุณหมอ หมอบอกว่าควรจะทำอาหารสดใหม่ทุกวันหรือสัก 3 วันครั้งให้หนูกิน จากเดิมเราทำอาทิตย์ละครั้งเพราะมัมมี้ไม่มีเวลาทำให้หนู

  • วันนี้ป่าป๊าก็เลยลงมือทำข้าวให้หนูเป็นเมนูใหม่ คุณหมอให้เน้นเนื้อสัตว์เยอะๆ ป่าป๊าเลยทำข้าวตุ๋นใส่หมูสับ ไข่แดง ปลา ผักคะน้า ต้นหอม ทำเสร็จป่าป๊าก็รีบกลับพัทยาเพราะมีงานต้องทำ ห่วงก็ห่วงหนู จะรีบไปเคลียร์งานแล้วรีบกลับมาช่วยมัมมี้

  • ช่วงบ่ายมัมมี้เพลียมากไม่ได้ไปทำงานเลยอยู่บ้านดูหนูตลอด มัมมี้เลยขอขึ้นไปนอนสักงีบ ตื่นมาได้ยินเสียงหนูร้องโวยวายเพราะพี่นาป้อนข้าว ก็ลงมาดู สักพักพี่นาตะโกนบอกว่า น้องเกรซแพ้อาหาร ผื่นขึ้นเต็มหน้าเลย (ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว 2 ครั้งแรกหนูแพ้กล้วยน้ำว้า) มัมมี้ก็ตกใจรีบให้หยุดกินพาหนูไปเช็ดหน้าเช็ดปากล้างออก แล้วก็รีบเอายาทาผื่นมาทา คุณยายก็ตกใจช่วยกันใหญ่ เห็นแล้วน่ากลัวมากเห่อแดงเต็มหน้าปาก คาง หู ขึ้นเต็มไปหมด เปิดเสื้อดูก็ลามไปที่หลังด้วย

  • มัมมี้งี้เครียดปุดๆ ขึ้นมาทันที หวัดหนูก็ยังเป็นอยู่แล้วยังมาแพ้อาหารอีก ขอโทษนะลูกเป็นความสะเพร่าของมัมมี้กับป่าป๊าเอง ดันให้หนูลองเมนูใหม่ ใส่ผักคะน้าฮ่องกงกับต้นหอมพร้อมกัน 2 อย่าง ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน ดันลืมไปว่าให้เพิ่มของใหม่ทีละอย่าง เวลาแพ้จะได้รู้ว่าแพ้อะไร คุณตาคุณยายเดาว่าหนูน่าจะแพ้คะน้าฮ่องกงเพราะเป็นผักเมืองจีน พวกนี้ยาฆ่าแมลงเยอะ

  • ป่าป๊าก็กลับไปแล้ว ตอนนั้นที่บ้านมีแค่มัมมี้ คุณยาย พี่นา พี่ปิ๋ง มัมมี้ตกใจทำอะไรไม่ถูก ลนไปหมด กลัวหนูจะเป็นอะไรไป จะให้กินยาแก้แพ้ลดน้ำมูกที่หมอให้มาก็ไม่กล้าให้กิน หรือว่าจะพาไป รพ เลยดี เย็นแล้วด้วยกว่าจะไปถึงรถติดแน่ๆ สุดท้ายโทรไป รพ ให้คุณหมอโทรกลับ พยาบาลรับเรื่องสื่อสารไม่เข้าใจกว่าหมอจะโทรกลับผ่านไป 30 นาที ผื่นหนูเริ่มยุบแล้วหลังจากทายาไป คุณหมอบอกว่าให้รีบป้อนยาแก้แพ้เลย ป้อนไปหนูก็ร้องไห้ไปน่าสงสารมากๆ เสร็จแล้วรออีก 1ชม ให้กินยาฆ่าเชื้อเพราะไข้หนูยังไม่หายสักที กินเย็นนี้แล้วก็พรุ่งนี้เช้าถ้ายังมีไข้อีกให้พาไปให้คุณหมอตรวจใหม่

  • คืนนี้มัมมี้ดูหนูคนเดียว ไม่มีป่าป๊านอนห้องข้างๆ คอยช่วยเหมือนเดิม มัมมี้เลยให้พี่นาขึ้นมานอนห้องข้างๆ เผื่อหนูไข้ขึ้นตอนกลางคืนจะได้ช่วยกัน

  • แล้วหนูก็ไข้ขึ้นอีกจนได้จริงๆ ป่าป๊าสั่งไว้ว่าให้นอนไม่ต้องเปิดแอร์ โห...มัมมี้นี้ตัวเหนียวหนึบหนับ ร้อนมากๆ อุ้มหนู หนูก็ตัวร้อน หัวแฉะ ซบกับไหล่มัมมี้อีก ตัวเหนียวกันทั้งแม่ทั้งลูก

  • ประมาณ 5 ทุ่ม หนูตัวร้อนทั้งๆที่ยังหลับอยู่นั่นแหละ มัมมี้ก็ 2 จิต 2 ใจว่าจะปลุกหนูขึ้นมากินยาดีมั๊ย จะเช็ดตัวให้ด้วย พอวัดไข้...โห ไข้ขึ้นสูงเลย หูขวา 37.8 หูซ้าย 38 มัมมี้โทรคุยกับป่าป๊า สรุปกันว่าเช็ดตัวให้หนูก่อน

  • ปลุกพี่นามาช่วยเช็ดตัว ทีแรกหนูยังไม่ตื่น พอตื่นก็ป้อนยาหนู เฮ้อ...หนูร้องไห้อีกตามเคย ร้องทุกครั้งที่กินยา บางครั้งร้องจนไม่มีเสียงเพราะเสียงแหบไปแล้ว สักพักใหญ่ๆ กว่าหนูจะหลับได้ มัมมี้ก็ไม่ได้นอนหรอกเป็นห่วงหนูมากๆ รู้มั๊ยลูก

  • คุณตากลับมาถึงบ้านราวๆ เที่ยงคืนเข้ามาดูในห้องเห็นมัมมี้อุ้มน้องเกรซอยู่เพราะหนูตื่นแล้วร้อง พออุ้มกล่อมก็หลับซบไหล่ พอวางก็ร้องอีก มัมมี้เลยไม่กล้าวางหนูอยากให้หนูได้นอนพักนานๆหน่อย คุณตามาบอกว่าเปิดแอร์ดีกว่า เสียงจะได้ไม่ดัง แต่ไม่ต้องเปิดแรง คุณตามาช่วยร้องเพลงกล่อมหนูด้วย สุดท้ายมัมมี้ก็วางหนูนอนได้ แต่หนูก็นอนได้ไม่นานหรอก หลับไปพักนึงก็จะร้องเอ๊ะตื่นอีก หลับๆ ตื่นๆ ตลอดทั้งคืน เล่นเอามัมมี้ไม่ได้นอนเลยจ๊ะ

- วันพุธที่ 15 ก.ย. 53 -

  • เช้ามาหนูยังมีไข้อยู่ ให้หนูกินยาลดไข้ไปตอน 8 โมง เสร็จแล้วมัมมี้ คุณยาย พี่นา ก็พาหนูไปหาหมอรอบที่ 3 กะว่าคราวนี้จะให้หนูนอน รพ ดีกว่า เป็นไข้มา 5 วันแล้ว อยากให้อยู่ใกล้หมอ คุณหมอตรวจแล้วก็เห็นด้วย จะได้เจาะเลือดให้น้ำเกลือหนูด้วย เพราะหนูกินได้น้อย ฉี่เหลืองขาดน้ำ เจาะเลือดไปตรวจให้มั่นใจว่าหนูไม่ได้เป็นไข้หวัด 2009 และไข้หวัดใหญ่

  • กว่าจะตรวจเสร็จก็ 11 โมงกว่า พอสรุปว่าให้หนูนอน รพ มัมมี้ก็โทรบอกป่าป๊าและคุณตา ป่าป๊าจะรีบเคลียร์งานแล้วเข้ามานอนเฝ้าหนูคืนนี้

  • ทีแรกป่าป๊ากะว่าจะเฝ้าหนู แล้วให้มัมมี้กลับบ้านไปพัก มัมมี้ห่วงหนูไม่กลับหรอก อีกอย่างตอนกลางคืนหนูต้องกินนมจากเต้ามัมมี้ด้วย

  • เจ้าหน้าที่ รพ มาอธิบายเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าห้องพัก แพงเอาเรื่องทีเดียวละ ห้องธรรมดาคืนละ 7,200 บาท แต่คืนแรกมี promotion เหลือ 4,500 บาท คืนที่สองได้ลด 20% จากราคาเต็ม เผอิญโชดคีรึเปล่าก็ไม่รู้ เด็กป่วยเยอะมากห้องเต็ม หนูเลยได้อัพเกรดเป็นห้องใหญ่ขึ้น มีห้องกินข้าว ดูทีวี แยกต่างหากจากห้องนอนด้วย ห้องนี้ปกติคืนละหมื่นกว่าบาทหนะ อืม...นอนสบายดีเหมือนกันแฮะ

  • ระหว่างรอห้องพัก น้องเกรซก็หลับคารถเข็นเลย คุณยายพาเข็นไปเข็นมาด้านนอกแผนกเด็กเพราะข้างในเด็กป่วยเยอะ ไม่อยากให้หนูรับเชื้อเพิ่ม คุณยายบอกว่าหนูชอบนั่งรถเข็น

  • พอขึ้นห้องพักแล้ว รอสักพักนึงพยาบาลก็มาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หนูเป็นชุดคนไข้ และรอคิวห้องเจาะให้น้ำเกลือว่างเพราะตอนนี้เด็กรอคิวเจาะน้ำเกลือกันหลายคน

  • เฮ้อ...มัมมี้สงสารหนูมากๆ หนูต้องเจ็บและร้องไห้เยอะแน่ๆเลย พอถึงเวลามัมมี้พาหนูเข้าไปส่งให้พี่พยาบาลแล้วมัมมี้ก็ออกจากห้อง ทนดูหนูร้องไห้ไม่ไหวจ๊ะ แต่ก่อนจะเจาะให้น้ำเกลือทั้งมัมมี้กับคุณยายก็ถามคุณหมอถึงรายละเอียดแล้วละ คุณยายกลัวหนูดึงเข็มออก คุณหมอกับพยาบาลก็อธิบายให้ฟังว่าจะมีการพันหลายชั้น มีใส่ไม้ดามไว้ แล้วก็ใส่ถุงมืออีกชั้นนึง ก่อนมัมมี้ออกจากห้องมัมมี้ก็ถามพี่พยาบาบให้มั่นใจว่าหนูจะไม่เป็นอะไร ถามว่าเคยมีเด็กร้องมากๆ จนช๊อกมั๊ย พี่พยาบาลเล่าให้ฟังว่าส่วนใหญ่เด็กจะร้องตั้งแต่ตอนที่จับรัดติดกับเบาะแล้ว ยังไม่ทันได้เจาะด้วยซ้ำ มัมมี้ออกมานอกห้องมองผ่านประตูฝ้าเข้าไปเห็นหนูดิ้นใหญ่ ร้องเสียงดังมากๆ สงสารลูกจริงๆ
  • แต่ให้น้ำเกลือแล้วหนูจะได้มีแรงเนอะ เพราะหนูกินได้น้อย หนูจะได้หายเร็วๆ จ๊ะ

  • พอมีสายน้ำเกลือมาอยู่ที่แขนซ้ายหนูแล้ว มัมมี้กับคุณยายถึงนึกขึ้นได้ว่า ลืมแจ้งพยาบาลว่าหนูติดดูดนิ้วโป้งข้างซ้ายเวลาง่วง เอาละสิ...ทีนี้จะนอนได้มั๊ยเนี่ย

  • ช่วงแรกๆ น้องเกรซจะพยายามดึงสายน้ำเกลือออก หนูคงสงสัยว่ามันคืออะไร ปกติหนูชอบเล่นพวกอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นสายๆ อยู่แล้วด้วย คุณยายบอกว่าสักพักหนูก็เลิกใช้แขนซ้ายไปเองโดยปริยายเหมือนจะรู้ว่าแขนนี้ยังใช้งานตอนนี้ไม่ได้อย่างนั้นแหละ ฉลาดจริงๆจ๊ะ

  • หลังจากเจาะเส้นเลือดให้น้ำเกลือ หนูคงเหนื่อยสักพักหนูก็หลับบนรถเข็น แปลกจริงๆ น้องเกรซชอบนั่งรถเข็นมาก นั่งเล่นสักพักเข็นไปเข็นมาก็หลับคารถเลย รถเข็น Combi นี้ป่าป๊ากับมัมมี้ไปซื้อจากงาน baby best buy มาใหม่ให้หนูเพราะคันเก่ามันหนักและกินพื้นที่ท้ายรถ คันนี้ดีตรงที่สามารถเข็นได้ 2 ทางด้วย เวลาหนูนั่งหนูจะได้เห็นหน้าคนเข็นด้วยจ๊ะ มัมมี้ชอบตรงที่มันสามารถปรับนอนได้ด้วย ตอนที่หนูนั่งหลับมัมมี้ก็ค่อยๆเลื่อนสายด้านหลังลงปรับเป็นท่านอนให้หนูโดยที่หนูไม่ตื่น

  • พอมัมมี้กินข้าวเสร็จก็รีบขับรถกลับบ้านไปเอาเสื้อผ้าของใช้หนูมาที่รพ ฝากคุณยายกับพี่นาช่วยดูหนูตอนที่มัมมี้ไม่อยู่

  • กลับมาถึง รพ อีกที น้องเกรซตื่นแล้ว ดูสดชื่นขึ้นเยอะเลย

  • คุณหมอเปลี่ยนยาฆ่าเชื้อตัวใหม่ให้หนูเพราะผลตรวจเลือดออกมาว่าหนูได้รับเชื้อไวรัส ไม่ใช่แบคทีเรีย ยาตัวเก่ากินแล้วไม่ช่วยรักษา จริงๆ คุณหมอบอกว่าพวกเชื้อไวรัสไม่มียารักษาโดยตรง ต้องปล่อยให้เชื้อมันตายไปเอง

  • พอหนูกินยาฆ่าเชื้อตัวใหม่ ดันมีผลข้างเคียงของยาอีก ทำให้หนูท้องเสีย ถ่ายเหลวตั้ง 4-5 รอบ เฉพาะช่วงบ่ายวันนี้วันเดียว คุณหมอเลยต้องให้หนูกินยาแก้ท้องเสียอีกตัว แล้วก็เปลี่ยนยาฆ่าเชื้อใหม่ เฮ้อ...กลายเป็นว่าหนูต้องกินยาเต็มไปหมด

  • ไอ้ยาแก้ท้องเสียเนี่ยก็กินยากมากๆ เพราะตัวยามีเนื้อแป้งคล้ายๆโคลนเหนียวๆผสมอยู่ แถมปริมาณที่กินก็เยอะซะด้วย ตอนพยาบาลป้อนยาหนูร้องไห้ดิ้นน่าดู มัมมี้เห็นแล้วสงสารหนูมากๆ

  • ป่าป๊ามาถึงตอนพยาบาลกำลังป้อนยาหนูพอดี พยาบาลกะกลางคืนไม่เก่งป้อนสู้กลางวันไม่ได้ แถมคนที่มาป้อนหนูเนี่ยป้อนไม่ได้เรื่องเลย ยาก็หกป้อนไม่เข้า หนูก็ร้องทรมาน เหงื่อแตกเต็มหน้า ร้องจนเหมือนกลั้นหายใจร้อง จนมัมมี้ต้องให้พักก่อน ตอนหลังเปลี่ยนคนป้อนก็ดีขึ้น หนูได้ยาบ้างแต่ก็ไม่ครบ

  • คืนนี้หนูนอนหลับได้ดีขึ้นจ๊ะ มัมมี้ก็ได้พักหน่อย ตอนนอนให้นมหนูก็ต้องคอยระวังไม่ให้ไปทับสายน้ำเกลือเข้า คืนนี้หนูไม่มีไข้แล้ว ดีจัง

- วันพฤหัสที่ 16 ก.ย. 53 -

  • เช้านี้มัมมี้ไปทำงานจ๊ะ หยุดมา 3 วันแล้ว (เดี๋ยวโดนไล่ออก) จริงๆ ไม่อยากไปหรอก เป็นห่วงหนู แต่ป่าป๊ามาช่วยดูให้แล้วก็วางใจหน่อย

  • มัมมี้รอคุยกับคุณหมอเสร็จแล้วก็ค่อยไปทำงาน คุณหมอขอดูภาพรวมหนูอีกทีช่วงบ่ายแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะให้กลับบ้านได้วันนี้มั๊ย

  • แต่มัมมี้กับป่าป๊าและคุณตาคุณยายเห็นตรงกันว่าน่าจะให้หนูอยู่ต่ออีกคืน จะได้ใกล้ชิดหมอแล้วก็มีพยาบาลป้อนยาให้หนูให้ครบโด๊สด้วย
  • ที่ รพ เค้ามีรถเด็กเล่นให้หนูนั่งขับรถ ปรื้นๆ ด้วยนะ มัมมี้เลยไปเข็นรถมาให้หนูนั่งเล่นในห้องแป๊บนึง หนูก็ใช้มือเดียวขับรถ หมุนพวงมาลัย ปรื้นๆ นั่นแหละจ๊ะ ทำหน้าทำตาขมวดคิ้วสงสัยใหญ่ ก็หนูไม่เคยเล่นมาก่อนนี่นา

  • สายๆ คุณตาก็พาคุณยายและพี่นามาเยี่ยม ทิ้งพี่นาให้อยู่คอยช่วยป่าป๊าดูแลหนู

  • พอพักเที่ยงมัมมี้ก็รีบกินข้าวแล้วก็แวะไปดูหนูที่ รพ เพราะที่ทำงานมัมมี้อยู่ไม่ไกล รพ นัก มัมมี้แวะซื้อกับข้าวและขนมไปให้ป่าป๊ากับพี่นากินกันด้วย ไปถึงหนูหลับอยู่พอดี หลับสบายเชียวจ๊ะ อยู่ได้ไม่นานมัมมี้ก็ต้องรีบกลับมาทำงานต่อ

  • ป่าป๊าเห็นหนูยังมีน้ำมูกและเสมหะเยอะอยู่ เลยถามคุณหมอว่าจะให้ล้างจมูกกับดูดเสมหะออกจากคอหนูได้มั๊ย คุณหมอก็ว่าทำได้ ทีแรกมัมมี้ก็ไม่ได้คิดอะไร ทำได้ก็น่าจะดี หนูจะได้หายใจสะดวกขึ้น แต่...พอนึกไปนึกมา มันต้องเจ็บแน่ๆเลยไอ้ที่จะดูดเสมหะออกจากคอเนี่ย สงสารหนูอีกแล้ว มัมมี้เลยให้ป่าป๊าถามคุณหมออีกทีสิว่ามันจำเป็นมั๊ย

  • แต่ป่าป๊าใจแข็งอะให้ทำ โชคดีที่มัมมี้มาทำงานไม่ต้องเห็นสภาพหนูร้องไห้ รู้จากป่าป๊าแค่ว่าเค้าจับหนูไปพ่นยาอะไรสักอย่างก่อนเพื่อให้เสมหะในคอมันไม่เหนียว เสร็จแล้วก็คงจะใส่สายเข้าไปในคอหนูเผื่อดูดออกมา

  • ส่วนล้างจมูกเนี่ยมัมมี้มาเห็นอีกทีตอนล้างก่อนนอนรอบที่ 2 เค้าเอาไซริ้งค์ใหญ่ๆดูดน้ำเกลือแล้วก็ฉีดแรงๆเร็วๆเข้าไปในรูจมูกหนูข้างนึง เสร็จแล้วน้ำเกลือกับน้ำมูกมันก็จะไหลออกมาจากจมูกอีกข้าง แต่...เราดันโชคไม่ดีเจอพยาบาลกะกลางคืนคนเดิมที่ไม่เก่งอีกแล้ว เค้าฉีดไม่แรงพอทำให้น้ำมันไหลเข้าปากหนูไปตั้งหลายอึกหนะ (ป่าป๊าเล่าว่าตอนกลางวันพยาบาลฉีดแรง น้ำมูกไหลปื้ดๆออกมาเลย) หนูก็ฉลาดจริงๆพอเห็นหน้าพยาบาลคนนี้ปุ๊บก็ร้องไห้ปั๊บแบบว่า..ชั้นไม่อยากได้คนนี้

  • โดยรวมวันนี้อาการหนูดีขึ้นมากๆ แล้วจ๊ะ เฮ้อ...โทรมไปเลยเนอะ ไม่สบายทีนึง

- วันศุกร์ที่ 17 ก.ย. 53 -
  • วันนี้น้องเกรซจะได้ออกจาก รพ แล้วจ้า

  • ตอนเช้าก่อนมัมมี้ไปทำงานก็ขนสัมภาระบางส่วนใส่รถมัมมี้ก่อน ตอนที่ป่าป๊ากับพี่นาพาหนูกลับบ้านของจะได้ไม่เยอะ

  • คุณยายรออยู่ที่บ้านก็ให้พี่ปิ๋งทำความสะอาดบ้าน ฉีดยุง รอหนูกลับไปจ๊ะ

  • ออกจาก รพ ราวๆบ่ายโมง ถึงบ้านก็บ่ายสองโมงกว่าๆ ฝนตกหนักมากๆ อากาศไม่ดีเลย

  • ป่าป๊าส่งหนูที่บ้านแล้วก็ออกไปซูเปอร์ซื้อของสดมาทำกับข้าวให้หนูกิน เราถามคุณหมอแล้ว คุณหมอให้เหยาะซี่อิ้วนิดๆลงไปในข้าวหนูได้ รู้สึกว่าหนูจะกินได้ดีขึ้นด้วย คงจะชอบ

- บทสรุป -

  • ถึงจะออกจาก รพ แล้ว แต่หนูก็ยังต้องกินยาอยู่อีก 3 ตัว ตัวแรกเป็นยาฆ่าเชื้อกินต่ออีก 3 วันๆละ 1 ครั้ง อีก 2 ตัวเป็นยาน้ำเขียว (ยาลดน้ำมูก) และยาน้ำแดง (ยาละลายเสมหะ) กินวันละ 3 ครั้ง จนกว่าจะหาย

  • เสาร์-อาทิตย์ ป่าป๊าเป็นคนป้อนยาหนู

  • พอวันธรรมดาให้พี่นาป้อน พี่นาป้อนเก่งทีเดียวละ คงจะจำมาจากพี่พยาบาล ท่าถือไซริ้งค์งี้เหมือนพยาบาลถือเลยน๊า

  • หลังๆ หนูกินยาไม่ร้องมากแล้ว คุณยายให้พี่ปิ๋งเอาผีเสื้อมาให้หนูดู (ไม่รู้ทำไมหนูชอบผีเสี้อจังน๊า) แล้วก็เอาอีกตัวมาใส่มือให้หนูกำไว้

  • หนูกินยามื้อสุดท้าย เช้าวันที่ 22 ก.ย. ไม่มีร้องสักแอะ ที่สำคัญ...ดันนอนกระดิกเท้าดิกๆ ให้พี่นาป้อนเฉยเลย แถมมียิ้มอีกตะหาก แสดงว่าที่ผ่านมาไม่ใช่ยาไม่อร่อยเนอะ

  • น้องเกรซไม่ได้อาบน้ำสระผมมาตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย.

  • 23 ก.ย. คุณยายจะให้หนูอาบน้ำเป็นครั้งแรกจ้า ช่วงที่ไม่ได้อาบน้ำก็เช็ดตัวหนูเอา บางทีก็เอาหนูนั่งกะละมังล้างก้น หนูชอบมากๆ ย่ำเท้าใหญ่ อยากจะเล่นน้ำใจแทบขาดแล้วใช่ม๊า...

  • ดีใจจังน้องเกรซเกือบหายเป็นปกติแล้ว เหลือแค่ยังเสียงแหบอยู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง

  • พอเริ่มฟื้นไข้หนูกินเก่งมากๆ คุณยายเล่าว่าหนูกินข้าวชามเบ่อเริ่มหมดเลยเสร็จแล้วตามด้วยนมอีก 2 oz ก็หมด กลายเป็นว่าตอนนี้หนูกินนมมัมมี้จากขวดวันละประมาณ 23 oz มากกว่าตอนก่อนเข้า รพ อีก

  • พอน้องเกรซกลับมาอยู่บ้าน มัมมี้ก็เริ่มๆ เจ็บคอ มีไข้ จะป่วยด้วยอีกคน คงเป็นเพราะมัมมี้ออดนอนมาหลายคืน มัมมี้เลยต้องรีบโด๊ปทั้งวิตามินทั้งยา กลัวจริงๆ ว่าจะทำให้น้องเกรซไม่สบายอีก

  • พี่นากับพี่ปิ๋งก็เริ่มเจ็บคอเหมือนกัน ทุกคนที่มีอาการโดนสั่งให้กินยาและใส่หน้ากากทุกครั้งที่เข้าใกล้น้องเกรซจ๊ะ

  • ล่าสุดมัมมี้ชั่ง นน น้องเกรซ กลับมาอยู่ที่ 6.7 กก เหมือนเดิมแล้ว เพราะตอนที่ป่วย นน หนูลดเหลือ 6.5 เองจ๊ะ

  • มัมมี้ ป่าป๊า รักหนูที่สุดเลยน๊า ตอนหนูป่วยป่าป๊าโดนรุมประนามใหญ่เลย โทษฐานที่เอาเชื้อมาติดหนู

  • มัมมี้ดีใจจังที่ตอนนี้ได้เห็นน้องเกรซกลับมาแข็งแรง เป็นเด็กร่าเริง ยิ้มง่าย หัวเราะเก่ง เหมือนเดิมแล้วจ๊ะ (ตอนวันสุดท้ายที่หนูดีขึ้นแล้วจะออกจาก รพ ก็มีแต่คนชมว่าหนูอารมณ์ดีจัง)

No comments:

Post a Comment