Thursday 17 September 2015

สิ่งดีๆที่เกิดขึ้น เมื่อน้องเกลป่วยครั้งแรก (4M)


น้องเกล 4 เดือนกว่า ป่วยเป็นโรค RSV หรือ โรคหลอดลมฝอยอักเสบ พูดง่ายๆ ก็คือ หวัดชนิดหนึ่งแต่มักจะเป็นในเด็กเล็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 5 ขวบ หนูป่วยครั้งแรกทำลายสถิติเลยต้องแอดมิดตั้งแต่ 4 เดือน ตอนเจ่เจ้เข้ารพ.ครั้งแรกตอนนั้น 8 เดือน



น้องเกลมีอาการทีแรกคือ มีจาม มีน้ำมูก ใสๆ เป็นอยู่ 2-3 วัน กลางวันดูปกติดี แต่พอตกกลางคืนจะนอนได้ไม่ค่อยดนัก พอคืนวันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2558 หนูเริ่มมีไข้ แทบจะไม่ได้นอนทั้งคืน แม่ต้องอุ้มหนูหลับ วางไม่ได้เลย แม่วัดไข้หนูก็ไม่มีไข้ แต่พอจับหัวหนูดู แม่ว่าหนูตัวร้อน แม่ให้หนูกินยาลดไข้ตอน 6 โมงเช้า แม่คอยดูนาฬิกาทุกๆ ชั่วโมงเพราะหนูนอนไม่ได้เลย ต้องขอบคุณป่าป๊าที่มาช่วยอุ้มหนูตอนช่วงตีหนึ่ง ทำให้แม่ได้พักบ้างแป๊บนึง พอสว่างเราเลยตัดสินใจพาหนูไปรพ. ใจแม่ก็ยังคิดว่าหนูคงไม่ต้องแอดมิด แต่ช่่วงที่หนูนอนได้แป๊บๆ แม่ก็เตรียมจัดกระเป๋าเสื้อผ้าไว้เผื่อไปก่อนด้วยเลย ต้องขอบคุณพี่เกรซด้วยที่เข้าใจ ยอมไปอยู่บ้านคุณย่า เพราะแม่กับป่าป๊าไม่อยากให้พี่ต้องมารพ. เชื้อโรคมันเยอะ



เราคิดว่าน้องเกลน่าจะติดมาจากเจ่เจ้ เพราะเจ่เจ้เริ่มไอ มีน้ำมูก ก่อน แม่กับป่าป๊าพยายามบอกเจ่เจ้ว่าอย่าเพิ่งเข้าใกล้น้อง แต่เจ่เจ้รักหนูมาก อยากจะเล่นกับหนู เรื่องป่วยไข้ โทษใครไม่ได้ ป่วยแล้วก็ไม่เป็นไรจ๊ะ ค่อยๆ เรียนรู้วิธีป้องกัน การอยู่ด้วยกันทั้งน้องและพี่ไป ลุงหมอบอกว่าเชื้อไวรัสก็มีอยู่ในอากาศทั่วไปนั่นแหละ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วหนูได้รับเชื้อจากที่รพ.รึเปล่า เพราะก่อนหน้านั้นหนูมีตุ่มใสๆ ขึ้นที่เท้า ป่าป๊าก็กลัวว่าหนูจะเป็นโรคมือเท้าปาก เพื่อความสบายใจเลยพาหนูมารพ.แล้วรอบนึงให้ลุงหมอดู วันนั้นลุงหมอบอกว่า ดูจากตุ่มแล้วเหมือนจะใช่ แต่ก็ให้รักษาตามอาการ มีไข้ก็กินยาลดไข้ ประมาณนั้น



เช้าวันอาทิตย์ที่ 13 กันยา เรามาถึงรพ.กันราวๆ 9 โมงนิดๆ เดิมทีตั้งใจจะมาแต่เช้าเพราะรู้ว่าวันอาทิตย์ลุงหมอคนไข้เยอะ แต่พอดีเช้าแล้วน้องเกลกินนมได้อีกรอบ เลยรอหนูกินให้เสร็จก่อนออกจากบ้าน ลุงหมอให้เอาน้ำมูกหนูไปตรวจหาเชื้อ ปรากฎว่าหนูเป็น RSV ตามที่ลุงหมอสันนิษฐานจริงๆ ด้วย ระหว่างที่รอผลพี่พยาบาลก็เช็ดตัวให้หนูเพราะหนูมีไข้และพ่นยากุ๊กไก่ขยายหลอดลมเพราะหนูไอแบบมีเสมหะแล้ว ตอนนั้นป่าป๊ายังไม่คิดว่าหนูจะเป็นเลย ลุงหมอบอกว่าโรคนี้กำลังระบาดช่วงหน้าฝนนี้ เด็กๆ เป็นกันเยอะมาก เป็นแล้วอยู่รพ.ยาวเลย ประมาณ 7-10 วัน และอาการของโรคหนูเพิ่งเริ่มเป็นช่วงวันต้นๆ มันจะแย่ลงไปอีกเรื่อยๆ ประมาณวันที่ 4-5 จากนั้นถึงจะค่อยๆ ดีขึ้น แม่ฟังแล้วใจหาย เครียด สงสารหนูมาก คุยกับลุงหมอสรุปว่าต้องนอนรพ. และต้องไป x-ray ปอดด้วย แม่เข้าไปในห้อง x-ray กับหนู เครื่องไม้เครื่องมือดูน่ากลัวไปหมด สงสารหนูตัวเล็กนิดเดียวต้องมา x-ray ต้องมาแอดมิด



กว่าเราจะได้ขึ้นห้องพักเกือบราวๆ เที่ยง หนูโดนจับไปเจาะเลือดเอาไปตรวจและคาเข็มไปที่มือซ้ายเผื่อต้องให้น้ำเกลือ พี่พยาบาลเอาถุงฉี่มาติดไว้เพราะลุงหมออยากจะเก็บฉี่หนูไปตรวจว่าร่างกายหนูได้รับน้ำพอรึเปล่า ถ้าน้ำไม่พอก็จะต้องใหน้ำเกลือ โชคดีผลตรวจออกมาว่าพอ หนูต้องคอยกินน้ำเรื่อยๆ เพราะถ้าน้ำน้อยขี้มูกและเสมหะจะเหนียว ไม่ดี



ป่วยครั้งนี้น้องเกลอยู่รพ. 6 วัน 5 คืน แม่ต้องนอนกับหนูที่รพ. ส่วนป่าป๊านอนที่บ้านกับเจ่เจ้ ห่างกันแบบนี้แม่คิดถึงเจ่เจ้กับป่าป๊ามากเลย ทำให้เข้าใจความหมายของคำว่าครอบครัวมากขึ้น แม่เขียนจม.ถึงพี่เกรซ และพี่เกรซก็เขียนตอบกลับมาหาแม่ แม่ต้องขอบคุณป่าป๊าที่เหนื่อยขับรถไปกลับรพ. คอยเอาอาหารมาส่งให้แม่ มาอยู่เป็นเพื่อนแม่ช่วยดูแลน้องเกล



การที่หนูป่วยครั้งนี้ทำให้แม่มีเวลานิ่งๆ อยู่กับตัวเองเยอะขึ้น ได้เปิดเสียงเทศน์หลวงพ่อฟังทุกวัน ได้ดูจิตตัวเองขณะที่ดูแลน้องเกล อุ้มกล่อมน้องเกลไป ก็ทำความรู้สึกตัวที่เท้ากระทบพื้นไป ส่วนเจ่เจ๊ก็เป็นเด็กดีของพ่อแม่ ไม่งอแง ช่วยดูแลและช่วยเหลือตัวเอง



โชคดีที่น้องเกลเป็นไม่รุนแรงอย่างที่ลุงหมอบอกเหมือนเคสทั่วๆ ไป หนูมีไข้แค่วันเดียวก็ไข้ลด และไม่ต้องโดดดูดเสมหะออกจากคอด้วย แค่กินยา ล้างจมูกและพ่นยาเท่านั้นจ๊ะ หนูยังกินนมแม่ได้ปกติดี แถมไม่กี่วัน หนูก็คึกคักอย่างกับไม่ได้ป่วย หนูแข็งแรงและแรงเยอะมากจนพี่ๆ พยาบาลทุกคนเอ่ยปาก ลุงหมอถึงขนาดบอกว่า ถ้าไม่ตรวจเจอเชื้อ RSV หนูก็มีอาการเหมือนแค่เป็นหวัดธรรมดาเท่านั้นเองจ๊ะ