Sunday, 24 September 2017

ทบทวนด้วยใจที่เบิกบาน

ใกล้วันสอบปลายภาคเทอม 1 ของเจ่เจ้แล้ว ปกติเวลาจะสอบแม่จะถามน้องเกรซทุกครั้งว่า อยากให้พ่อแม่ช่วยติวมั้ย ส่วนใหญ่หนูจะตอบว่า "เอาคะ"

แต่... เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ คือ ติวไป ตีกันไป จบลงด้วยความตึงเครียด โกรธกัน 😤 จบไมีสวย บาดเจ็บทางใจไปตามๆ กัน ทั้งป่าป๊า แม่ และหนู 🤕

ทั้งๆ ที่ป่าป๊ากับแม่ก็คุยกันตอนที่หนูขอให้ติว ว่า เราจะไม่ทะเลาะกับลูกนะ จนพักหลังๆ หนูมักจะบอกว่า "ไม่อยากติว" ซึ่งแม่ก็เข้าใจหนูนะ เป็นแม่ๆ ก็ไม่อยากติว มีแต่ประสบการณ์ไม่ค่อยจะดีนี่นา โดนพ่อแม่บ่นว่า โกรธกัน

+++
จนเมื่อวานนี้ แม่ถามหนูว่า "จะสอบแล้ว ต้องให้แม่ช่วยติวอะไรมั้ย" หนูตอบว่า "อยากให้แม่ช่วยติว" (จริงๆ แม่แอบผิดหวังกับคำตอบเล็กน้อย เพราะขี้เกียจติว 555)

รอบนี้แม่และหนูสอบผ่านด่านอารมณ์ของเราเองจ้า เย้ๆๆ 😄


เราทบทวนสิ่งที่หนูจะสอบด้วยความสนุกสนาน แฮปปี้ทั้งแม่ลูก ลูกไม่เครียด แม่ไม่เหนื่อย มีพลังเหลือไปทำอย่างอื่นกันต่อ


+++
แม่มานั่งทบทวน อะไรทำให้ครั้งนี้ต่างไปจากครั้งอื่นๆ เพื่อที่จะบันทึกไว้เป็นความสำเร็จก้าวเล็กๆ ของแม่และน้องเกรซ

1. สิ่งสำคัญที่สุด คือ ❤ ใจ ❤ ของแม่เอง

ถ้าแม่มีใจที่มีสติ สงบดีพอ ก็ส่งจะต่อพลังงานดีๆ ไปถึงหนูได้ไม่ยาก

ใจที่ดี คือ เชื่อใจและวางใจ ในตัวหนู
แม่ทำหน้าที่ของแม่แบบไม่ใส่ความคาดหวัง กดดันให้หนูได้ดั่งใจแม่

ถามตัวเองว่า "ใครเป็นคนสอบ หนูหรือแม่"
สอนหนูแล้วก็วางใจ

พอใจแม่มั่นคง มันส่งต่อถึงหนูจริงๆ นะ
 


2. สร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนเริ่ม

แม่ไม่อยากติวแล้วต้องโกรธกับหนู หนูเองก็คงคิดเหมือนกัน ดังนั้น วันนี้เราจะติวกันดีๆ ไม่หงุดหงิดใส่กันนะ

3. ให้หนูเป็นคนบอกว่า อยากจะให้ช่วยตรงไหนบ้าง

ลูกเป็นคนเรียน เป็นคนสอบ ส่วนแม่แค่ให้ความช่วยเหลือตามที่ลูกร้องขอ ดังนั้น หนูต้องเป็นคนบอกแม่ว่าอยากจะให้แม่จุดไหน เราเอาแนวข้อสอบแต่ละวิชามานั่งดูกัน และหนูเป็นคนบอกแม่ว่าติวเรื่องอะไรบ้าง

ถ้าจะต้องติวทั้งหมด แลดูจะใช้เวลานานและเครียดเกินไป

👩 น้องเกรซให้แม่ติว ภาษาไทย สังคม ประวัติ ให้
👨 ส่วนเลขกับจีนจะให้ป่าป๊าติว
👌 ภาษาอังกฤษกับวิทย์ไม่ต้องติว หนูว่ามันง่าย หนูทำได้อยู่แล้ว
 

4. ทำให้มันสนุกและมีเวลาเบรคพักเป็นช่วง

น้องเกรซบอกว่า ขอพักแป็บนึง หลังติวแต่ละวิชาจบ พอติวภาษาไทยเสร็จ หนูขอยืมโทรศัพท์แม่ไปเล่นเกมส์ แม่ถามจะเล่นกี่นาทีดี หนูตอบว่า 10 นาที (แม่คิดในใจ 10 นาทีแป็บเดียวเอง จะเล่นส์อะไรได้) เลยแถมให้หน่อยเป็นเกือบ 15 นาที

พอบอกหมดเวลาแล้ว หนูตอบว่าขอจบตรงนี้อีกนิดนึง ซึ่งแม่ก็เข้าใจนะว่า บางทีขอจบตรงที่เล่นส์ค้างอยู่ก่อนเป็นเรื่องปกติ หนูก็ใช้เวลาไม่นาน เดินเอาโทรศัพท์มาคืนแม่เองเลย

👏 ตรงนี้ต้องชื่นชมหนู หนูเก่งมากๆ ที่มีความรับผิดชอบ รักษาเวลาและคำพูด

+++
พอทุกอย่างมันเป็นไปด้วยความสุข สนุก

คราวนี้แม่ใช้เวลาติวเร็วมาก แป็บเดียวจบ 3 วิชาภายในเวลา 1 ชม.

เลยชวนหนูเล่นเกมส์ติววิทย์ต่อ แม่เอากระดาษมาเขียนชื่อกลุ่มของสัตว์ต่างๆ ชวนน้องเกรซเอาตุ๊กตาสัตว์ที่บ้านเรามีออกมาเล่นกัน

น้องเกรซชวนแม่เล่นส์ใบ้คำ ทำท่าประกอบทายว่าเป็นสัตว์อะไร ทายแล้วก็ไปหยิบสัตว์ตัวนั้นมาวางให้ตรงกับกระดาษที่เขียนไว้

ติวไป เล่นส์ไป แบบหนุกหนาน หัวเราะเสียงดังถึงบนบ้านจนป่าป๊างง ว่าทำไรกัน
 

+++
จบการติว 4 วิชา แบบสนุก มีความสุข ทั้งแม่และลูก

ที่สำคัญ...

แม่ได้กำลังใจ ความภาคภูมิใจในตนเอง ว่า แม่ก็ดีพอ รอบนี้แม่สอบผ่านด่านอารมณ์ตนเอง ไม่ติวไปหงุดหงิดไป มีศรัทธาและพลังใจในการฝึกตนต่อไป

ลูกได้มีประสบการณ์การติวหนังสือที่ดี มีความสุขขณะติว และก็ได้ความภาคภูมิใจในตัวเองเช่นเดียวกัน ว่าหนูก็ทำได้ ไม่หงุดหงิดแม่

แม่ลูกได้สัมพันธภาพในการติวสอบที่ดีร่วมกัน

Thursday, 21 September 2017

ศรัทธาในตัวแม่และศรัทธาในตัวลูก

 
 
เรื่องมีอยู่ว่า พอน้องเกรซขึ้นป.2 หนูก็ต้องแยกห้องกับเพื่อนรักของหนู ทีนี้เพื่อนกลุ่มใหม่ในห้องที่หนูเรียน ก็ไม่ชอบที่จะให้หนูไปเล่นกับเพื่อนรักหนูที่อยู่อีกห้องหนึ่ง...

แม่เพิ่งรู้เรื่องนี้เมื่อคืน จากที่เราแม่ลูกคุยกันเรื่อยเปื่อยก่อนนอนเกี่ยวกับเรื่องที่รร. และหนูก็เล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟัง ตอนที่แม่ฟัง ใจแม่ก็มัวแต่คิดว่าจะทำยังไงดี เพราะหนูถามแม่ว่า ถ้าเป็นแม่ๆ จะบอกเพื่อนที่ห้ามไม่ให้หนูไปเล่นกับเพื่อนรักหนูยังไง สมมุติว่าเพื่อนชื่อ น้องเอ และน้องบี 2 คนนี้เค้าบอกว่า ถ้าหนูไปเล่นกับเพื่อนรักหนู เค้าก็จะไม่รักหนู
หนูไม่ได้เชื่อเพื่อนนะ แต่หนูกลัวเพื่อนไม่รัก

มีคนช่วยสะกิดใจแม่ ตอนที่แม่ไปปรึกษาเรื่องนี้ ถามแม่ว่า แล้ว ณ ตอนนั้น แม่ได้รับฟังหนูด้วยหัวใจและสะท้อนความรู้สึกของหนูรึเปล่า ใช่...เลย แม่ขอโทษที่พลาดไป แม่ไม่ได้ฟังหนูด้วยหัวใจทั้งหมดจริงๆ และไม่ได้รับรู้ สะท้อนความรู้สึกของหนูเท่าไหร่นัก เพราะ..ใจแม่มัวแต่เป็นห่วงหนู คิดว่าจะตอบหนูยังไงดี แม่ไม่ได้มีสติอยู่กับปัจจุบัน หนูคงรู้สึกอึดอัดใจ ลำบากใจ กลัว กังวล ที่เพื่อนจะไม่รัก

+++
สิ่งที่แม่ตอบหนูไป คือ พ่อแม่ให้ชีวิตหนู ชีวิตเป็นของหนู เพื่อนไม่มีสิทธิ์ในชีวิตหนู
แล้วหนูอยากจะเล่นกับเพื่อนรักของหนูรึเปล่า? หนูพยักหน้า หนูถามแม่ว่าถ้าเป็นแม่ๆ จะทำยังไง

แม่เชื่อว่าน้องเกรซรู้ว่าอะไรดีไม่ดี ถ้าเป็นแม่ๆ จะถามตัวเองก่อนว่า เราอยากเล่นกับเพื่อนรักมั้ย ถ้าอยาก... เราทำให้ใครเดือดร้อนมั้ย เราทำให้ตัวเองเดือดร้อนมั้ย เพื่อนอาจจะไม่ชอบใจ ก็เรื่องของเค้า แต่ก็ดีนะที่หนูใส่ใจความรู้สึกเพื่อน

แม่เคยอ่านเจอ มีพี่ผญ.คนนึงโตกว่าหนู เค้าโดนเพื่อนที่เป็นหัวโจกบอกเพื่อนคนอื่นๆ ไม่ให้เล่นกับเค้า แต่เค้าก็ไม่สนใจ เค้าไปหาอะไรเล่นสนุกๆ ของเค้ามตอนหลังเพื่อนๆ คนอื่นเห็นเค้าเล่นน่าสนุกก็มาขอเล่นด้วย

หนูจำอีกเรื่องที่แม่เล่าให้ฟังได้มั้ย ที่พี่ฝรั่งอ้วนโดนเพื่อนแกล้ง D the whale (อ่านข่าวที่แชร์ในเฟสที่เค้าพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสให้หนูฟัง ที่เค้าไปทำเสื้อยืดขายช่วยปลาวาฬ) หนูจำชื่อได้แม่นเลยคะ คงจะประทับใจ ถามแล้วจำได้ ตาเป็นประกาย

แม่เชื่อว่า หนูมีความคิดไอเดียดีๆ เยอะ หนูคงต้องดูเหตุการณ์เอาว่า หนูจะทำยังไงดี
 
+++
 แม่ก็ไม่รู้หรอกว่า สิ่งที่แม่ตอบหนูไปมันถูกหรือผิด และแม่ก็ไม่มั่นใจในคำตอบตัวเองเท่าไหร่นักด้วย

+++
เพื่อนแม่บอกว่า เรื่องนี้ "หนูกำลังเรียนรู้บทเรียนชีวิตอีกบทนึงอยู่"
ทั้งหนูและแม่ กำลังเรียนรู้ไปด้วยกัน

อดทนและรอคอยอีกนิด ถ้าหนูสามารถจัดการเรื่องนี้ได้เอง หนูจะภูมิใจมาก ที่จัดการชีวิตตัวเองได้ โดยมีแม่เป็นที่ปรึกษา
 
** นี่เป็นบทเรียนหนึ่งที่จะทำให้แม่เติมพลังศรัทธาต่อแม่เองและลูก **
 
ปัญหานี้เป็นปัญหาของใคร?
แม่ไม่ควรแย่งแบบฝึกหัดของหนูมาทำเอง จนทำให้หนูขาดทักษะในการใช้ชีวิตแก้ปัญหาด้วยตนเอง
สิ่งที่แม่ทำได้คือ สอนได้ โค้ชได้ และวางใจ : )
 
เราจะผ่านบทเรียนนี้ไปด้วยกันได้ โดยหนูจะมีแม่ที่คอยรับฟังและเข้าใจหนูนะจ๊ะ
 
 
 
+++
เมื่อเช้านี้แม่ได้เห็นใจที่มีอคติของแม่เอง จนขาดความเมตตา (อีกเรื่องที่แม่อยากจะขัดเกลาและฝึกตัวเอง) แม่ถามว่าหนูอยากจะไปเล่นกับเพื่อนรักของหนูมั้ย เค้านั่งกันอยู่ที่สนามหญ้าโน่นไง แม่ชักชวนหนูให้ไป ต่อหน้าน้องเอ และน้องบี ซึ่งหนูก็ค่อยๆ เดินไป แม่คิดว่าหนูคงจะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก หนูเลยจูงน้องเกลไปเป็นเพื่อนด้วย แม่สังเกตุสีหน้าอมยิ้มมีความสุขของหนู ตอนที่หนูนั่งในกลุ่มเพื่อนรักของหนู และในขณะที่น้องเอ น้องบี ก็เดินตามหนูมา แต่ไม่เข้าร่วมกลุ่มด้วย เลือกที่จะนั่งข้างๆ แทนกัน 2 คน
 
พอครูเรียกให้มาเข้าแถวกัน แม่ก็เห็นได้ชัดว่า หนูมีสีหน้าไม่มั่นใจ กังวล ป่าป๊าบอกว่า หนูคงจะกังวลใจ ไม่สบายใจถ้าเกิดเพื่อน 2 คนถาม หนูจะทำยังไงดี...

 
+++
แม่ถามน้องเอว่า ปกติอยู่ที่รร. หนูเล่นกับใครบ้างเหรอคะ น้ำเสียงของแม่ถามเพื่อนหนูแบบปกติ แต่แว่บนั่นเอง ที่แม่เห็นใจที่มีอคติ ไม่ชอบเพื่อนหนู เพราะทำให้ลูกแม่ลำบากใจ ทำไมต้องมาบงการ เป็นหัวโจก บลาๆๆ
 
 
ใจของแม่ที่คิดไม่ดี จริงๆ ทุกเหตุการณ์ล้วนมีที่มาและที่ไป เพื่อนของหนูอาจจะมีปมหรืออะไรบางอย่างที่ทำให้เค้าแสดงออกแบบนั้น คอยไปห้ามไม่ให้คนนี้เล่นกับคนโน้น คอยไปบอกไม่ให้เพื่อนๆ รักคนนี้ เป็นต้น
 
แม่ได้สติคิดว่า ถ้าเป็นเพื่อนของแม่ หรือบุคคลอื่นๆ ที่เค้ามีเมตตา เค้าคงเลือกที่จะไม่แสดงออกแบบที่แม่ทำ  เห็นจิตที่ไม่มีเมตตาของตัวเอง
 
เพื่อนแม่บอกว่า "อันนี้ดีสุด คือเห็นใจตัวเองให้ชัด"
เราคุยกันว่า จริงๆ เราก็ห้ามความคิดให้คิดดีตลอดไม่ได้ และถ้าเรายังมีเมตตาไม่ได้ก็แค่ให้รู้มันไป
 
เพื่อนยังเตือนสติแม่ต่ออีกว่า... อย่ามองเห็น "ปัญหา" จนลืมว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของ "ปัญญา" เนาะ 

+++
แม่ยังจำคำๆ นึงได้ว่า "สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ"
แม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นแบบฝึกหัดสำหรับเราแม่ลูก
เป็นโอกาสที่ดี ที่แม่จะได้สร้างศรัทธาในตัวเอง
เป็นโอกาสที่ดี ที่ลูกของแม่จะได้สร้างศรัทธาในตัวเอง
เพื่อที่ก้าวผ่านมันไป เพื่อรอรับบทเรียนต่อๆ ไปในชีวิต เช่นกัน


+++
อัพเดท 25/09/2560

อาทิตย์ที่แล้วแม่ถามหนูว่า เพื่อนเอ ยังห้ามไม่ให้หนูไปเล่นกับเพื่อนรักของหนูอีกรึเปล่าคะ

น้องเกรซตอบว่า.. แม่ จริงๆ แล้วหนูน่าจะเข้าใจเพื่อนเอผิดคะ เค้าไม่ได้ห้ามหนูไปเล่นกับเพื่อนรักหนู เค้าแค่บอกว่า ถ้าหนูจะไปเล่น ก็ให้หนูมาบอกเค้าก่อน

แว่บแรกที่ได้ยินลูกเล่า... แม่ปรี๊ดดดดขึ้นทันที ตามประสาคนไม่ยอมใครง่ายๆ ไม่ชอบให้ใครเอาเปรียบ สวนกลับทันที
"ทำไมเราต้องไปเชื่อเค้าด้วย เค้าก็เป็นแค่เพื่อนคนนึง ไม่ใช่หัวหน้าเราสักหน่อย ทำไมเราต้องขออนุญาตเค้า เราอยากไปเล่นกับใครก็ได้ เค้าไมีมีสิทธิ์มาสั่งเรา....

สักพักสติเพิ่งจะกลับมา แม่ถามลูกชุดใหญ่ ไอ้คำถามประเภท ทำไมๆๆๆ เนี่ย ก็รู้อยู่แล้วนะ ว่าลูกจะตอบได้มั้ย หนังสือตำราเลี้ยงลุกเชิงบวก ก็อ่านมาเยอะ แต่พอขาดสติเท่านั้น แม่ก็ทำตามสัญชาติญาณทันที (ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพระาแม่เติบโตมาแบบนี้ การจะเปลี่ยนทันทีคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่แม่ก็เชื่อมั่นว่า มันไม่ยากที่จะปรับเปลี่ยน)

แล้วการที่แม่สวนกลับหนูแบบนั้น มันก็คงไม่ต่างกับการที่แม่กำลังสั่ง กำลังบงการชีวิตหนูเหมือนกัน แม่ไม่ได้รับฟังหนูจริงๆ (อีกแล้ว) ว่า จริงๆ แล้วหนูคิดและรู้สึกยังไงกันแน่ แม่ขอโทษนะลูก

ครั้งนี้ยังดีที่สติมาทัน จากนั้นแม่ก็หยุด นั่งพิจารณา
ก่อนหน้านั้นที่แม่วิตกกังวลไป พอผ่านมาไม่กี่วัน story เปลี่ยนอีกละ แม่ไม่ได้อยู่กับปัจจุบันเลย แม่กังวล ห่วงหนูเกินไปรึเปล่า หนูควรที่จะได้เรียนรู้ชีวิตตัวเองมากกว่านี้มั้ยนะ
 
 
 
 
 

Sunday, 24 January 2016

งานนิทานในสวนปีที่ 12


9 มกราคม 2559
ปีนี้งานนิทานในสวนจัดขึ้นเป็นปีที่ 12 แล้ว แม่ตั้งใจพาพี่เกรซไปทุกปีเพราะรู้ว่าหนูชอบ ไฮไลท์ของงานที่หนูชอบมาก คือ การได้เพ้นท์หน้า ปีนี้เค้าจัดที่สวนหลวงร.9 เป็นปีแรก พอดีกับช่วงที่เพื่อนป่าป๊าแต่งงานใกล้ๆ กัน ป่าป๊าเลยพาพวกเราไปนอนที่รร.งานแต่งเพื่อนป่าป๊า และเย็นพาเด็กๆ ไปงานนิทานในสวน แม่ชอบนะจัดที่สวนหลวงร.9 คนไม่เยอะ และสถานที่ดีเลย จัดริมน้ำ ลมพัดเย็นสบายอากาศไม่ร้อน





ปีนี้้น้องทะเล เพื่อนน้องเกรซมางานด้วย บังเอิญแม่ฟ้าเข้ากทม.เหมือนกัน แม่เลยชวนมาด้วยกันจ๊ะ กว่าเราจะจอดรถและเดินไปที่งาน (เดินไกลพอสมควร) พี่ๆ เค้าก็เล่นนิทานจบไปแล้ว แต่ไม่เป็นไร พี่เกรซสนุกกับอย่างอื่นต่อได้ ปีนี้เค้ามีให้เด็กๆ จับฉลากด้วย (อาจจะเป็นเพราะวันที่เราไปตรงกับวันเด็กพอดี) หนูและน้องเกลจับฉลากได้กระติกน้ำเหมือนกันเลย หนูบอกแม่ว่า รอให้น้องโตแล้วจะได้เอามาใช้เหมือนกัน หนูรักน้องมากเลยนะจ๊ะ แม่ดีใจจัง พักหลังๆ เนี่ย เวลาน้องใส่ชุดอะไร หนูก็จะต้องไปเลือกเสื้อผ้าที่มีสี มีลวดลาย คล้ายๆ น้องใส่เป็นฝาแฝดกันทุกที : )
 


 
น้องเกรซและทะเลเลือกที่จะเพ้นท์หน้าลายเดียวกันเลย เด็กๆ เข้าคิวต่อแถวอดทนรอ น้องเกรซน่ารักมากที่พอพี่เค้าเพ้นท์หน้าให้เสร็จแล้วก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ขอบคุณด้วย หนูเป็นเด็กมีมารยาทดีมากคะลูก
 



 
 
หลังจากเพ้นท์หน้าเสร็จเด็กๆ ก็มาทำกิจกรรมประดิษฐ์โมบายและพวงกุญแจกันต่อ จบด้วยการวิ่งเล่นไล่จับ bubble กันเป็นที่สนุกสนาน และก็เป็นธรรมเนียมของทุกปี มางานนิทานในสวนแล้วแม่ก็ต้องร่วมบริจาคเงินซื้อหนังสือนิทานคุณภาพให้พี่เกรซกลับบ้านไป 1 ชุด เป็นการส่งเสริมและปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้หนูจ๊ะ
 





 

Gaily@8M




เริ่มเข้าเดือนที่ 8 น้องเกลชอบเกาะยืนมากๆ หนูเริ่มหัดเกาะยืนแล้ว โดยเฉพาะเวลาป่าป๊านอนแล้วหนูนั่งอยู่ข้างๆ หนูจะชอบเกาะตัวป่าป๊าแล้วยืน บางทียืนได้แล้วก็ปล่อยมือ ทำหน้าทำตาหัวเราะชอบใจ ประมาณว่าภูมิใจที่หนูยืนเองได้แล้ว

หนูไม่ชอบให้จับนอน เวลาจะเปลี่ยนแพมเพริ์สให้หนูหรือจับหนูนอนเช็ดตัวหลังอาบน้ำ หนูจะโวยวายไม่ชอบ หนูชอบที่จะนั่งมากกว่า ยิ่งเดี๋ยวนี้เกาะยืนแล้ว นั่งก็จะไม่ชอบนั่งด้วย ขาหนูแข็งแรงมากๆ จะชอบเอาขายันพื้นไว้ไม่ให้จับนั่ง




น้องเกลเริ่มหัดพูดมากขึ้นแล้ว คำแรกที่ได้ยินหนูพูดคือ "ป่าป๊า" แต่ยังไม่แน่ใจว่าหนูเรียกป่าป๊ารึเปล่า คำที่ 2 คือ "เจ่เจ๊" อันนี้หนูเรียกพี่เกรซจริงๆ หนูชอบเล่นกับพี่มากๆ ยิ้มปากกว้างดีใจทุกครั้งที่เห็นพี่ พี่เกรซก็น่ารักมากๆ ช่วยแม่ดูแลน้องได้เป็นอย่างดี


น้องเกลติดแม่และติดเต้ามาก ไม่ยอมกินขวดนมมาพักใหญ่ๆ แล้ว กลายเป็นว่าเลิกขวดไปโดยปริยาย แม่กำลังหัดให้หนูดูดหลอดอยู่



ปลายเดือนที่ 8 น้องเกลดูดน้ำจากหลอดได้สำเร็จแล้ว เย้ๆ ที่สำคัญหนูเริ่มตั้งไข่ล้มแล้วนะจ๊ะ หนูยืนเองได้แป๊บๆ แล้วด้วย และชอบเป่าปากปู๊ดๆ เวลาทำแล้วเห็นคนหัวเราะ หนูก็จะยิ้มปากกว้างชอบใจ ทำใหญ่เลย เริ่มขี้เล่นแล้วนะเนี่ย หนูชอบเล่นกับพี่เกรซมากๆ ด้วย เล่นด้วยกันทีไรส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดน่าดู



 
น้องเกล 8 เดือนเข้ารพ.แอดมิดเป็นรอบที่ 2 ด้วยอาการไวรัสลงกระเพาะ หนูอ้วกไม่หยุด ด้วยความที่หนูตัวเล็ก ลุงหมอเลยให้แอดมิดให้น้ำเกลือ แม่นอนรพ.กับหนู 2 คืน อาการดีขึ้นเลยได้กลับบ้าน น้องออกจากรพ.ไม่กี่วันพี่เกรซเป็นต่ออีก อาการเดียวกันเลย รอบนี้ป่าป๊าไปนอนรพ.กับพี่เกรซ นอนอยู่ 2 คืนเหมือนกัน พี่น้องติดกันและคงจะติดมาจากแม่ด้วยเพราะแม่อ้วกคนแรก แต่แม่ไม่ต้องนอนรพ. ขอโทษนะคะเด็กๆ ที่แม่อาจจะเป็นคนแพร่เชื้อให้หนู โชคดีที่พวกหนูอาการไม่หนักมาก ลูกสาวแม่ 2 คนตัวเล็กทั้งคู่ ลุงหมอเลยจับให้น้ำเกลือช่วยให้หายไวๆ 


น้องเกลอึดมาก ไปไหนไปกันกับพี่เกรซตลอด แม่กับป่าป๊าพาพี่เกรซไปไหน หนูไปด้วย ขอบคุณนะคะลูกที่เป็นเด็กดี เลี้ยงง่าย ไม่งอแง เราทุกคนรักหนูมากนะคะ



 
* ดูดน้ำจากหลอดเองเป็นแล้ว
* เริ่มตั้งไข่ล้ม ลุกยืนเองได้ละ
* ชอบเป่าปากปู๊ดๆ
* ชอบเล่นกับพี่เกรซมาก กรี๊ดกร๊าดดีใจทุกครั้งที่เล่นกัน
* พี่เกรซรักน้องมาก ช่วยพ่อแม่ดูแลน้องได้เยอะเลย
* โบกมือบ๊ายบาย และขยำมือจับปูดำ
* เข้าใจคำว่า "eat" เวลาแม่ป้อนข้าวแล้วบอกเกลลี่ eat หนูจะอ้าปากทุกครั้ง
* เวลาหิวนม จะดึงเปิดเสื้อแม่ขอกินนม
* เวลาแม่ทำเบบี้ซายน์ milk จะยิ้มดีใจที่จะได้กินนม
 
 

Saturday, 2 January 2016

Gaily @ 6M


เผลอแป๊บเดียวน้องเกล 6 เดือนแล้วจ๊ะ หนูได้หม่ำๆ ข้าวกล้องงอกตุ๋นครั้งแรก หลังจากที่หนูรอคอยมานาน นั่งดูแม่ ป่าป๊า เจ่เจ้ กินข้าว กินโน่นกินนี่ และหนูยื่นมือมาจะจับ อยากกินบ้าง มาหลายรอบละ คราวนี้สมใจหนูสักที หนู enjoy eating มากๆ เจ่เจ๊ก็ตื่นเต้นไม่แพ้หนูเลย มาขอช่วยดูตอนทำให้หนู มาขอป้อนน้อง พี่รักหนูมั้ยละจ๊ะ

น้ำหนักน้องเกลก็ไต่ตามกราฟของเจ่เจ้มาติดๆ หนูหนัก 6.1 kg จ๊ะ ไซส์มินิทั้งคู่เลยลูกสาวแม่ แค่หนูทั้งคู่แข็งแรงก็พอแล้วจ๊ะ ตัวเล็กเหมือนแม่ก็ไม่เห็นเป็นไร



น้องเกลยังคงเป็นเด็กนอนน้อย เฉลี่ยรอบละ 30 นาที ทั้งวันไม่งอแง จะมีงอแงบ้างช่วงเย็นเพราะเริ่มง่วงละ หนูห่วงเล่น ห่วงดูโน่นนี่นั่นซะมากกว่าเรื่องนอน หนูเป็นเด็กอารมณ์ดียิ้มเก่งมาก เจอใครก็เที่ยวแจกยิ้มเค้าไปทั่ว บางทีไปชวนเค้าคุยอีกตะหาก




พี่เกรซรักหนูมากนะลูก ชอบเข้ามาเล่นกับน้อง น้องเองเวลาเห็นพี่ก็ยิ้มปากกว้าง เหงือกบานทุกที ดีใจอยากจะเล่นกับพี่เหมือนกัน หนูตีแขนพั่บๆ คุยอ้อแอ้ๆ กับพี่ตลอด เห็นพี่กินนมก็เอื้อมมื้อจะไปคว้ากล่องนมพี่



น้องเกลกินเก่งมากๆ แค่พาหนูนั่งเก้าอี้กินข้าวของหนู หนูก็เอามือตีโต๊ะปั้บๆ อารมณ์แบบดีใจจะได้หม่ำๆ ลุงหมอบอกว่าถ้าหนูชอบกินและกินได้ดี ให้หนูกินข้าววันละ 2 มื้อไปเลยเพราะหนูตัวเล็ก ลุงหมอว่าพัฒนาการด้านอื่นๆ ของหนู ลุงหมอไม่ห่วง ห่วงแต่เรื่องตัวเล็กนี่แหละ บังเอิญหนูก็กินเก่งซะด้วย แม่กับป่าป๊าเลยจัดให้หนูกินข้าววันละ 2 มื้อไปเลย มื้อบ่ายหนูกินผลไม้เป็นมะม่วงจ๊ะ ถือกินเองเลยนะ ชอบมากๆ ขนาดน้ำเปล่าหนูยังชอบกินเลย 555 ข้าวมื้อนึงหนูกินไม่น้อยเลยนะ ประมาณ 10 ช้อนโต๊ะได้ กินหมดเกลี้ยงซะด้วย แถมทำท่าจะกินอีก เดือนหน้าแม่ว่าจะเพิ่มปริมาณข้าวให้หนูแล้วละจ๊ะ เมนูของหนูเดือนนี้ก็จะมีทั้งอโวคาโด ตำลึง แครอท ใส่เนื้อไก่ เนื้อหมู สลับๆ กันไป




*** เดือนนี้น้องเกลคลานได้แล้วนะจ๊ะ เร็วมากๆ เลยลูก ขาหนูแข็งแรงสุดๆ พัฒนาการเด็กทั่วไปเค้าเริ่มคลานกันตอน 8 เดือน นี่ 6 เดือนกว่าๆ หนูคลานแล้วอ่าาาา เวลาเอาหนูลงแผ่นรองคลาน หนูจะชอบคลานออกมาด้านนอก หลายๆ ครั้งชอบทำท่าก้นโด่ง แบบว่าจะพยายามลุกนั่ง ลุกเดินแล้ว แม่คงต้องจับหนูใส่คอกเร็วๆ นี้แล้วละ บางทีหนูก็แบบว่าจะหัดเกาะยืนแล้วด้วย ท่าท่างหนูคงจะเดินได้เร็วแน่ๆ

เดี๋ยวนี้หนูรู้จักเล่นกับพี่เกรซแล้วน๊า หนูชอบเล่นกับพี่มากๆ ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด ยิ้มปากกว้างทุกครั้ง เล่นกันมันส์ไปเลย ทีแรกแม่กับป่าป๊าคิดว่าต้องรอหนูโตกว่านี้ถึงจะเล่นกันได้ซะอีก แม่ดีใจที่พี่เกรซรักน้อง น้องเองก็ชอบเล่นกับพี่มากๆ ดีใจที่หนู 2 คนรักกัน แม่รักพวกหนูที่สุดเลยจ๊ะ

Wednesday, 4 November 2015

ปิดเทอมหรรษา ครอบครัวสุขสันต์ (ปิดเทอมเล็กอ.3)

ตุลาคม 2558 น้องเกรซปิดเทอมเล็กที่รร. เป็นเวลาประมาณ 1 เดือนจ๊ะ ปิดเทอมคราวนี้บ้านเรามาทำข้อตกลงกันว่าจะอยู่ร่วมกันยังไงให้มีความสุข แต่ละคนคิดว่าควรจะทำยังไง มีอะไรที่ทำแล้วคนอื่นไม่ชอบ ควรจะพัฒนาบ้าง แม่คิดในส่วนของแม่และเขียนลงบนกระดาษให้น้องเกรซดู น้องเกรซก็คิดของหนูเองว่าหนูควรจะทำยังไงดี ส่วนป่าป๊าไม่ยอมเขียน ขี้โกงบอกว่าตัวเองใช้หมึกสีขาว


แม่และป่าป๊ามีความเห็นตรงกันว่า น้องเกรซโตพอที่จะช่วยเหลืองานบ้านเพิ่มขึ้นได้แล้ว ใช้ช่วงเวลาปิดเทอมที่มีเวลามากขึ้น หัดให้หนูช่วยงานบ้าน รับผิดชอบเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าบ้านเราจะมีแม่บ้านคอยทำงานบ้านให้ แต่การที่หัดให้หนูรับผิดชอบงานบ้าน ทำอะไรด้วยตัวเอง จะเป็นสิ่งที่ติดตัวหนูไปจนโต อีกหน่อยหนูจะสบาย หลังจากที่แม่กับป่าป๊าปรึกษากันแล้ว เราก็ถามความเห็นหนู ซึ่งหนูก็เห็นด้วย แม่แนะนำงานบางอย่างที่คิดว่าหนูน่าจะทำได้ และหนูก็ขอทำบางอย่างที่หนูอยากจะหัดทำด้วย แม่ print ออกมาเป็นตารางแต่ละวัน เพื่อที่จะติ๊กว่าหนูทำอะไรได้บ้าง ป่าป๊าเป็นสปอนเซอร์บอกว่าถ้าหนูทำได้ครบ (วันที่เราอยู่บ้านกัน) หนูจะได้เงินค่าจ้าง 500 บาท



เอาเข้าจริง หนูทำได้บ้างไม่ได้บ้าง บางวันก็ขยัน บางวันก็ขี้เกียจ วันไหนขยันหน่อยก็ล้างจานให้ทั้งบ้านเลย (แม่แค่กำหนดให้หนูล้างจานและแก้วน้ำของตัวเองเท่านั้น) งานหลักๆ ที่หนูช่วยได้ดีมาก คือ ช่วยเลี้ยงน้องเกลจ๊ะ บางวันหนูก็มาช่วยทำกับข้าวให้น้อง ทำกับข้าวกินกันเอง สรุปสุดท้ายป่าป๊าเลยให้ค่าจ้างหนู 200 บาท น้องเกรซขอเอาเงินในกระปุกออมสินหนูออกมานับและไปฝากธนาคารด้วย แม่ให้หนูเลือกว่า เงินค่าจ้างที่หนูได้ 200 หนูจะแบ่งไว้ใช้ส่วนหนึ่งหรือจะฝากธนาคารหมดเลย หนูเลือกที่จะฝากธนาคารทั้งหมด


สิ่งที่สำคัญที่หนูได้จากการทำงานบ้านไม่ใช่ค่าจ้างที่่ป่าป๊าให้ แต่มันคือ ความภาคภูมิใจในตัวเองที่หนูทำได้ แม่จะคอยย้ำและถามเสมอว่า หนูภูมิใจในตัวเองมั้ยลูก หนูก็จะบอกว่า หนูภูมิใจ แม่เห็นสีหน้าและแววตาหนูแล้วแม่ก็รู้ว่าหนูภูมิใจกับสิ่งที่หนูทำและหนูมีความสุขจ๊ะ

ทริปช่วงปิดเทอมเราไปเกาะช้างกัน 4 วัน 3 คืน กับบ้านแม่ผึ้งและแม่ปู น้องเกรซมีความสุขและสนุกมากๆ บอกว่า อยากจะอยู่ที่เกาะช้างต่อ ยังไม่อยากกลับ
รูปตอนไปเที่ยวเกาะช้าง >> https://www.facebook.com/ratchalun/media_set?set=a.10153344640938731.1073741945.561343730&type=3

นอกจากทริปเกาะช้างแล้ว หนูมีกิจกรรม Kids Camp กับที่รร. 5 วัน หนูได้ทำอะไรสนุกๆ เป็นประโยชน์์และได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เยอะแยะ แม่ถามว่าหนูชอบอะไรมากที่สุด หนูบอกว่า หนูชอบทำนา ชอบขี่ควาย วันสุดท้ายที่รร.พาไปทำกิจกรรมนอกรร.ที่ค่ายทหารจ๊ะ

เรามีไปดูละครไตรยางค์แสนสุข ที่โรงละครมายาฤทธิ์กันด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ของหนูแล้ว รอบนี้หนูมีเพื่อนๆ ไปดูด้วยเยอะแยะเลย ทั้งปลาทราย นาตาลี ทีโบน ออสติน มิชา ละครเรื่องนี้จะต้องใช้สมาธิในการดูและทำความเข้าใจยากกว่าเรื่องแรก แต่หนูก็สนุกและชอบมาก ถึงขนาดจะขอไปดูอีกรอบเหมือนเรื่องแรกไม่มีผิด ทีแรกแม่คิดว่ามันจะยากเกินไปที่หนูจะเข้าใจ แต่ก็มีหลายๆ ตอนที่หนูประทับใจ เอามาเล่น เอามาคุยต่อที่บ้านอีกหลายรอบ ทั้งเล่นปิดไฟ-เปิดไฟ ทำเสียงไก่ขัน ชอบฉากที่เด็กดมดอกไม้ (พี่นักแสดงใช้เท้าทำเป็นดอกไม้)


กิจกรรมอีกอย่างก็คือ ฮาโลวีนปาร์ตี้ ที่ Kids castle งานนี้แม่ปูเป็นคนชวนไป หนูเคยไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วกับนาตาลี ปีนี้หนูมีเพื่อนๆ ไปด้วยหลายคนเลยจ๊ะ ทั้งนาตาลี ออสติน มิชา ปาล์ม เหนือ กิจกรรมก็จะคล้ายๆ เดิม มีพิเศษตรงที่มี piñata ให้เด็กๆ ได้ดึงเชือกและเก็บลูกอมกัน น้องเกรซชอบมาก เพราะเคยดูมาจากการ์ตูนคายุ คราวนี้ได้มาเล่นของจริงสักที


วันไหนที่เราอยู่บ้านกัน หนูก็จะวาดรูปลงสมุดวาดรูปที่แม่ซื้อให้และชวนให้แม่มาช่วยกันระบายสีกับหนู ช่วงเย็นเราก็ไปขี่จักรยานเล่นรอบหมู่บ้านด้วยกัน บางวันหนูก็ไปว่ายน้ำที่สโมสร บางวันเราก็ชวนกันเล่นเกมส์วิศวะกรน้อย หนูเล่นด่านแรกผ่านตั้งนานแล้ว แม่เลยลองเปลี่ยนเป็นด่านที่ 2 ให้หนูลองบ้าง แป๊บเดียวหนูก็เล่นได้ละ หนูกับป่าป๊าขำแม่กันใหญ่ที่แม่เล่นไม่ได้สักที แม่มีถอยเกมส์จราจรอัจริยะมาให้หนูด้วย เกมส์นี้หนูก็ชอบเหมือนกันจ๊ะ


ช่วงที่เราเข้ากทม.ไปนอนบ้านยายกับก๋ง ตอนเช้าแม่กับป่าป๊าพาหนูไปปั่นจักรยานรอบใหญ่ที่สวนรถไฟมาด้วย หนูชอบมากอยากจะขอปั่นอีกรอบ ส่วนน้องเกลก็น่าจะชอบ ป่าป๊าพาใส่รถเข็นเดินไปเดินมาน้องหลับไปเลยจ๊ะ


ปิดเทอมนี้กิจกรรมเพียบ ปิดเทอมแค่ 1 เดือน หนูมีกิจกรรมมากมาย หนูสนุกจนวันสุดท้ายก่อนเปิดเทอม แม่ถามหนูว่าปิดเทอมนี้หนูแฮปปี้มั้ย หนูตอบว่าแฮปปี้คะ มีไม่แฮปปี้นิดเดียวคือ พรุ่งนี้จะต้องไปรร.แล้ว ทำไมปิดเทอมมันสั้นจังเลย ^ ^