Wednesday 29 September 2010

ปะ ปะ ปะ ไปเที่ยวกันดีกว่า

ทริปนี้เป็นทริปแรกของน้องเกรซจ๊ะ (ไม่นับ กทม-พัทยา น๊า) เรามีแพลนที่จะไปเที่ยวหัวหินกันค่า มัมมี้คุยกับป่าป๊ามาพักใหญ่ๆ แล้วว่าอยากจะพาหนูไปเปิดหูเปิดตาไปเที่ยวต่างจังหวัดกันดีกว่า "หัวหิน" เป็นจุดหมายปลายทางของเราจ๊ะ เลือก destination ได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาก็ต้องเลือก accommodation เอาละหว่า..ปกติไปเที่ยวกัน 2 คน ไม่เคยมีเบบี๋ไปด้วย การเลือกที่พักก็ไม่ต้องอะไรมาก คราวนี้มีหนูไปด้วยก็ต้องทำการบ้าน หาข้อมูล search from the Internet กันยกใหญ่ว่าพักที่ไหนดี เลือกไปเลือกมา ก็มีปัจจัยเรื่องที่ว่า เราจะต้องพาพี่นาไปด้วย ไปช่วยป้อนข้าว ป้อนนม หนู ครั้นจะให้พักโรงแรมห้องเดียวกันหมดก็ไม่ไหว จะไปพักคอนโดเหมือนปีที่แล้วก็ไม่ค่อยสะดวกเพราะไม่มีอาหารเช้าให้ พอดีมีการท่องเที่ยว ป่าป๊าไปเดินเลือกอยู่หลายชั่วโมง สุดท้ายก็ได้ที่พักที่ "บ้านทะเลดาว" กันจ๊ะ
http://www.baantalaydao.com/

บ้านทะเลดาว เป็นบูติกรีสอร์ทเล็กอยู่เขาตะเกียบ มัมมี้กับป่าป๊าเคยมาพักที่นี่แล้วครั้งนึงเมื่อหลายปีมาแล้ว ทริปนี้เราไปกัน 3 วัน 2 คืน (25-27 ก.ย. 53) น้องเกรซอายุได้ 8 เดือนแก่ๆ เกือบ 9 เดือน ทีแรกมัมมี้ก็ตุ้มๆ ต่อมๆ ว่าหนูจะหายไข้ทันไปเที่ยวมั๊ยน๊า โชคดีหนูดีขึ้นแล้ว เราชวนคุณยายกะก๋งไปด้วยเพราะป่าป๊าจองห้อง Pavilion Suite เป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก พอดีเดือนนี้เราได้เพื่อนพี่นา ชื่อ พี่ปิ๋ง มาช่วยทำงานบ้านเพิ่มอีกคน คุณยายจะได้ไม่เหนื่อยมากเวลาที่ช่วยดูน้องเกรซวันธรรมดา เลยกลายเป็นว่า ถ้าจะไปก็ต้องไปกันทั้งบ้าน ผู้ใหญ่ 6 คน แต่พอถึงวันเดินทางจริงๆ พี่ปิ๋งไม่สบาย ไอแค่กๆ ก๋งเลยตัดสินใจไม่ให้พี่ปิ๋งไปเพราะกลัวว่าจะไปติดหนู ทำให้หนูไม่สบายอีกรอบ เลยทำให้คุณยาย ก๋ง และพี่ปิ๋ง ไม่ได้ไปกับเราจ๊ะ

กว่าจะออกเดินทางกันได้ก็ประมาณบ่ายโมงนิดๆ แล้ว เพราะรอให้น้องเกรซหม่ำๆ ข้าวเสร็จก่อน สัมภาระที่ว่าไม่น่าจะเยอะ ก็ยังเยอะเต็มรถอยู่เหมือนเดิม สมบัติน้องเกรซเป็นกล่องๆ ทั้งหมด 3 กล่อง ยังไม่รวม รถเข็น เครื่องนึ่งขวดนม ที่อุ่นกับข้าวแบบไฟฟ้า กล่องใส่ขวดนม น้ำยาล้างขวดนม เก้าอี้กินข้าว กะละมังอาบน้ำ ไปไหนกันทียังกับจะย้ายบ้านอย่างงั้นละ

ขึ้นรถได้ไม่นานน้องเกรซก็ทำท่าประจำตัวปากหมูอู๊ดๆ สักพักก็ดูดนิ้วแล้วก็หลับไป ตอนนอนหลับก็หน้าตาน่าเกลี๊ยดน่าเกลียด อิอิ


ก่อนถึงเพชรบุรีป่าป๊าก็แวะปั๊ม ไปร้านกาแฟที่มีห้องแอร์ให้พี่นาป้อนนมมื้อบ่ายหนู ออกข้างนอกทีไรหนูกินน้อยทุกที กินไปแค่ 2.5 oz จากปกติที่กิน 6 oz เสร็จแล้วเราก็เดินทางต่อจ๊ะ ไปถึงรีสอร์ทก็ประมาณ 4 โมงกว่าแล้ว รถเข็นขนของคันเดียวไม่พอ ต้องใช้ 2 คัน เชื่อรึยังเอ่ยว่าสมบัติเยอะจริงๆ

เราพักห้อง 121 กันจ๊ะ เดินขึ้นบันไดมาอยู่ชั้น 2 ห้องพักโอเคเลยน๊า มาถึงน้องเกรซตื่นเต้นใหญ่ กลิ้งไปกลิ้งมาทั่วเตียงเลย ห้องนี้จะเป็น 2 ชั้น มีห้องใต้หลังอยู่ชั้นบน ห้องนี้นอนได้ 4 คน เรา 3 คน พ่อ แม่ ลูก ก็นอน ห้องนอนใหญ่ข้างล่าง ส่วนพี่นานอนข้างบนจ๊ะ สะดวกสบายดีดีเดียวเชียว ระเบียงก็กว้างขวาง ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ก็ใหญ่ดี มีห้องน้ำในห้องรับแขกด้วย มีอ่างอาบน้ำ outdoor อยู่ชั้นบนด้วย แต่เราไม่ได้ใช้กันจ๊ะ

สักพักเราก็ไปเดินเล่น พาหนูไปดูทะเลกันจ๊ะ คนเยอะเหมือนกัน รู้สึกว่าห้องพักจะเต็มทุกห้องเลย ลมค่อนข้างแรงทีเดียว มัมมี้กลัวหนูไม่สบายอีก เลยจับใส่เสื้อคลุมอีกตัว ป่าป๊าบอกว่าให้เอาผ้าโพกหัวหนูไว้ โพกได้ไม่ทันไร หนูก็ดึงออก หนูไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับหัวหนูเท่าไหร่ แชะๆ ถ่ายรูปกัน วิวสระว่ายน้ำ วิวเขาตะเกียบ

ตอนที่ป่าป๊าซื้อแพ็กเกจที่พักในงานฯ ป่าป๊าได้ซื้อ dinner set มาด้วย ราคา 400 บาท สำหรับ 4 คน มัมมี้เลือก Set A มี ยำทะเล ไก่ทอดตะไคร้ ผัดผักรวม และผลไม้/ไอศครีม เราขอให้เค้ามาส่งที่ห้องพักแทนที่จะไปนั่งกินริมทะเล เพราะกลัวลมแรงและยุงเยอะ พอคุณยายกับก๋งไม่ได้มาด้วย มัมมี้เลยต่อรองเค้าแทนที่จะเสริฟอาหารเย็นแค่ 1 วัน ขอแบ่งเป็น 2 วันแทนเพราะเรากินกันแค่ 2 คน (พี่นากินน้อย เราก็แค่สั่งข้าวเพิ่มอีก 1 จาน) อิอิ ประหยัดไปได้ตั้งเยอะ สรุปมื้อเย็น 2 มื้อเราก็กินข้าวที่ห้องพักกัน อร่อย อร่อย

ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่น้องเกรซได้หม่ำๆ ข้าวนอกบ้านด้วยจ๊ะ

กลางคืนกว่าน้องเกรซจะหลับใช้เวลานานเหมือนกัน สงสัยหนูจะตื่นเต้นอยากเล่นซะมากกว่าอยากนอน ตกกลางคืนมัมมี้รู้สึกเหมือนจะเจ็บคอ ช่วงเช้ามืดเริ่มเป็นมากขึ้นมัมมี้เลยแยกออกมานอนที่ห้องรับแขก พอหม่ำบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าเสร็จ มัมมี้ให้ป่าป๊ากับพี่นาดุหนู ส่วนมัมมี้ก็รีบไปหาหมอที่ รพ จ๊ะ กลัวจะติดหนูอีกมากๆ เพราะหนูเพิ่งหายป่วย ทริปนี้เราเลยไม่ได้ออกไปไหนกันเลย ช่วงบ่ายมัมมี้ก็แยกขึ้นไปนอนชั้นบน ป่าป๊ากับพี่นาพาหนูไปเดินเล่นริมทะเล มัมมี้ตื่นมาพวกหนูก็กลับมากันพอดี สักพักเราก็พาน้องเกรซไปเล่นทรายกันจ๊ะ มัมมี้ยืมอุปกรณ์เล่นทรายของพี่โน่มาจากป้าแอน แต่..แต่.. มันไม่ work กับน้องเกรซอ่า หนูไม่เอาทรายเข้าปากก็จริงแต่หนูจะเอาอุปกรณ์เล่นทรายที่มันเลอะทรายเข้าปากซะงั้น เล่นได้แป๊บเดียวก็ต้องเก็บละ กลัวหนูกินทรายเข้าไป คงต้องรอให้หนูโตกว่านี้ก่อนค่อยพามาเล่นใหม่นะลูก

ช่วงเช้าที่เราไปหม่ำบุฟเฟ่ต์ข้างสระว่ายน้ำกัน มัมมี้กับป่าป๊าพาน้องเกรซไปเดินออกกำลังกายริมขอบสระด้วย หนูชอบใหญ่เลย ยิ้มหน้างี้บานนนเชียว วันสุดท้ายก่อนกลับนั่งๆ กินข้าวเช้ากันอยู่ มีพี่ๆ เค้าเล่นน้ำกันร้องเล่นกันสนุกน้องเกรซนั่งอยู่ในรถเข็นหนูพอได้ยินเสียงเท่านั้นแหละ Alert หันควับไปมองทันที แล้วนั่งทำหน้าละห้อย อยากเล่นน้ำบ้าง น่าสงสารจัง จริงๆ มัมมี้มีซื้อห่วงยางใหม่มาให้หนูด้วยกะว่าจะให้หนูเล่นแต่หนูเพิ่งหายป่วยมาทริปนี้เลยอด สุดท้ายมัมมี้กับป่าป๊าใจอ่อนก็ให้หนูลงเล่นน้ำทั้งชุดนอนนั่นแหละ ป่าป๊าเป็นคนลงสระกับหนู ป่าป๊าก็เหมือนจะไม่ค่อยสบายตัวนิดหน่อย เดี๋ยวนี้พอเราสองคนรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวก็ต้องรีบคว้าหน้ากากมาใส่เลย กลัวติดหนูมากๆ

ขากลับเราแวะเพลินวานกันจ๊ะ มัมมี้กับป่าป๊าก็ยังไม่เคยไป เข้าไปได้แค่ถ่ายรูปด้านหน้านิดเดียวละ ร้อนมากก กลัวจะไม่สบายกัน แต่ก็ได้ภาพสวยๆ มาพอสมควรเลยน๊า

Thursday 16 September 2010

ป่วยครั้งแรก

น้องเกรซป่วยเป็นครั้งแรกในชีวิตตอนอายุ 8 เดือน 10 วัน

- วันศุกร์ที่ 10 กย 53 -
  • ตอนเย็นป่าป๊ามาจากพัทยามาหาหนูกับมัมมี้ที่บ้านคุณยาย คืนนั้นป่าป๊าบ่นๆ กับมัมมี้ว่าเจ็บๆ คอ แต่ป่าป๊าก็ไม่ได้มีไข้อะไร

- วันเสาร์ที่ 11 กย. 53 -

  • เช้าวันเสาร์น้องเกรซก็เริ่มมีอาการไอแค่กๆ ไม่สบายตัวรุ่มๆร้อนๆ มีไข้ต่ำๆ ป่าป๊าเลยเดาว่าหนูน่าจะติดจากป่าป๊าตอนช่วงเช้ามืดที่หนูตื่นมากินนมแล้วพอกินเสร็จมัมมี้ก็ให้หนูนอนต่อบนเตียงเดียวกับมัมมี้ป่าป๊า

  • จริงๆ วันนี้หนูมีคิวไปว่ายน้ำด้วย แต่พอหนูไม่สบายทุกอย่างก็งดหมด ช่วงบ่ายๆ ดูอาการแล้วหนูไม่ดีขึ้น ซึมๆ เราเลยตัดสินใจพาหนูไปหาหมอกัน

  • ก่อนจะไปก็วุ่นพอควรเพราะน้องเกรซไม่มีหมอประจำ ตอนที่หนูเล็กๆ หนูเกิดที่ รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ พอหนูไปอยู่พัทยาก็มีหมอประจำที่นั่น (แต่ตอนนี้ป้าหมอคนนั้นก็ไม่ได้ทำงานแล้ว) ทีนี้พอหนูต้องฉีดวัคซีนเราก็พาหนูไปคลินิคที่ลุงกันต์แนะนำแถวเพชรเกษม แต่หนูไม่สบายจริงๆ คลินิคก็เปิดตอนเย็น รอไปก็ไม่ไหว จะไปสมิติเวช ศรีนครินทร์ก็ไกลบ้าน เคยไปรพ.เจ้าพระยาแถวบ้านก็ไม่ประทับใจหมอ มัมมี้อยากให้หนูมีหมอประจำที่ไม่ไกลจากบ้านนัก สุดท้ายลองถาม Mr.Google แล้วเราก็เลือกไป รพ.BNH กันจ๊ะ ที่นี่มีคุณหมอเด็กเก่งๆหลายคน ได้ยินชื่อคุณหมอสุธีราคนพูดถึงเยอะ แต่คิวยาวมาก เราเลยเลือกคุณหมอปวินทราแทน คุณหมอน่ารักใจดี อายุยังไม่มาก อธิบายจนเราเข้าใจ ให้เราถามจนหมดคำถาม หน่อยกับเคนธีรเดชที่เป็นดาราดังเค้าก็พาลูกเค้ามาหาคุณหมอปวินทราเหมือนกันจ๊ะ

  • ช่วงบ่ายพาน้องเกรซไปหาหมอได้ยาแก้ไอละลายเสมหะ ยาลดน้ำมูก มากิน ยาแก้ไอละลายเสมหะเนี่ยกินวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร ส่วนยาลดน้ำมูกกินวันละครั้งก่อนนอน ยาลดไข้ที่บ้านมีอยู่แล้วก็ให้กินตอนมีไข้

  • คุณหมอบอกว่าหนูเป็นหวัด ก็น่าจะเป็นเชื้อตัวเดียวกับป่าป๊าหนูนั่นแหละ ถ้ามีอะไรก็ให้โทรหาหมอได้

  • เย็นวันนี้ป่าป๊าก็รีบไป รพ. ฉีดยาเลยนะ จะได้หายเร็วๆ ป่าป๊ารู้สึกผิดมากที่ทำให้หนูป่วย สงสารหนูจัง

  • ตกกลางคืนป่าป๊าโดนจับแยกห้องนอน จะมีมัมมี้นอนกับหนูคนเดียว

  • พออากาศเย็นหนูก็เริ่มงอแง ไม่สบายตัว ร้องโยเย หายใจไม่ออก มีน้ำมูก มีเสมหะ มีไข้ครบสูตร ตกดึกมัมมี้จับหน้าผากหนูตัวร้อนเชียว มีไข้ขึ้นอีกแล้ว มัมมี้ก็รีบอุ้มหนูไปปลุกป่าป๊าอีกห้องมาช่วยกันเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น ป้อนยาลดไข้ให้หนูกิน

  • ถ้าดูตารางนอนตอนกลางคืนของน้องเกรซจะเห็นว่าหนูตื่นบ่อยมากๆ นอนรอบละ 1-1.5 ชม แล้วก็ตื่นร้อง ไม่สบายตัว มัมมี้แทบไม่ได้นอนทั้งคืนต้องคอยอุ้มหนู อุ้มขึ้นมาหนูก็คงง่วงมากๆละ อุ้มปั๊บเอาหัวมาซบไหล่มัมมี้ปุ๊บแบบหมดเรี่ยวหมดแรง พอวางนอนหนูก็ร้องใหม่ ติดให้อุ้มมากๆ เช้ามามัมมี้งี้โทรมเป็นหมีแพนด้าไปเลย (เอ๊ะๆ คืนนี้ยังเพิ่งเริ่มต้น ยังมีอีกหลายๆ คืนตามมาอีกยาว มัมมี้อดนอนทั้งอาทิตย์กว่าหนูจะดีขึ้น เล่นเอา นน ลดลงไปอีกโล ผอมสเลนเดอร์ไปเลยจ๊ะ)
  • พูดถึงเรื่องกินยา หนูเป็นเด็กกินยายากมากๆ มัมมี้สงสารหนูทุกครั้งที่ต้องกินยา แต่ป่าป๊าบอกว่าสงสารเหมือนกันแต่ก็ต้องให้กิน ไม่งั้นหนูไม่หายจะเป็นหนักขึ้น เดี๋ยวก็ต้องไปนอน รพ หรอก ซึ่งมัมมี้ก็เห็นด้วยเลยต้องใจแข็งบังคับหนูกินยา

  • เวลาที่จะป้อนยาหนู ก็ใช้วิธีที่ป้าหมอที่คลินิคเคยป้อนวัคซีนโรต้าให้น้องเกรซ โดยการจับน้องเกรซนอนราบ แล้วมีคนช่วยเอามือจับหัว จับแขนขาหนูไม่ให้ดิ้น แล้วบีบปาก เอายาใส่ไซริ้งฉีดเข้ากระพุงแก้มหนู โอ๊ย...น้องเกรซร้องไห้บ้านแทบแตก ดิ้นๆ ร้องน้ำหูน้ำตาไหล เหงื่อแตกเต็มตัว กว่าจะป้อนเสร็จก็เหนื่อยกันไปทั้งคนป้อนและคนถูกป้อน คุณตาคุณยายเห็นก็จะสงสารหนู ไม่อยากให้กิน แต่ไม่กินไม่ได้เดี๋ยวหนูไม่หาย หนูก็สุดยอดเป็นเด็กฉลาดจริงๆ กินเสร็จพออุ้มขึ้นมาก็จะพยายามเค้นให้อ๊วกออกมา หลายครั้งเลยที่ป้อนแล้วหนูอ๊วกออกมาหมด ทำให้หนูได้ยาไม่ครบ อาการไข้หนูก็ยังมีอยู่ พอกินยาลดไข้ก็ตัวไม่ร้อนเหมือนจะดีขึ้น พอยาหมดฤทธิ์ก็ไข้ขึ้นอีก
-วันจันทร์ที่ 13 ก.ย. 53 -

  • ผ่านไป 2 วันอาการไข้น้องเกรซยังไม่หาย พอยาหมดฤทธิ์ก็ตัวร้อนอีก มัมมี้ก็เลยลางาน ป่าป๊าก็ยังไม่กลับพัทยาอยู่ กทม ช่วยกัน

  • ตื่นแต่เช้ามัมมี้เลยโทรหาหมอที่ รพ พยาบาลดันบอกว่าคุณหมอจะโทรกลับเฉพาะตอนที่คุณหมอออกตรวจที่ รพ เท่านั้น เช้านี้คุณหมอไปตรวจที่ รพ เด็ก ทางพยาบาลต้องรับเรื่องไว้ก่อน พอคุณหมอเข้าตอนบ่ายแล้วจะให้คุณหมอโทรกลับ ป่าป๊าโมโหคุยไปคุยมาก็แค่ให้ทางพยาบาลลองโทรหาหมอดูถ้าหมอว่างก็ให้หมอโทรกลับมาแค่นั้นเอง สุดท้ายก็ได้คุยกับคุณหมอ คุณหมอบอกว่าให้พามาให้หมอดู แต่คิวหมอยาวมากกว่าจะว่าง 3.30 คุณหมอบอกว่าเสร็จจาก รพ เด็ก แล้วจะรีบเข้ามา เดี๋ยวจะลัดคิวให้

  • เราเลยพาหนูกลับไปรพ.ให้คุณหมอดูใหม่ ไปรอตั้งแต่เที่ยง คุณหมอมาถึงเที่ยงนิดๆ เลยได้ตรวจเลย คุณหมอน่ารักมากรีบตรวจให้ทั้งๆที่ยังไม่ได้กินข้าว ตรวจหนูเสร็จหมอถึงไปกินข้าวจ๊ะ

  • คราวนี้เลยขอให้คุณหมอตรวจว่าหนูจะติดเชื้อไข้หวัด 2009 รึเปล่า เพราะมันกำลังระบาด ได้ยินมาว่าตาม รพ. ต่างๆ ห้องคนไข้เต็มหมดเพราะคนไม่สบายเยอะ วิธีตรวจเค้าก็เอาก้านไม้สำลียาวๆ แหย่เข้าไปในรูจมูกหนูให้ลึกๆ ขูดเอาเมือกในจมูกไปตรวจ รอผล 40 นาที สรุปว่าหนูเป็นแค่หวัดธรรมดา

  • สงสัยหนูจะกลัวหมอแฮะ พอพาไปให้คุณป้าหมอตรวจหนูก็ทำท่ากระปรี้กระเป่าอาการดีขึ้นซะงั้นละ ไม่ซึมๆ เหมือนอยู่บ้าน คุณหมอบอกว่าน่าจะใกล้หายแล้ว

  • คุณหมอให้ยาฆ่าเชื้อเผื่อมาด้วย บอกว่ายังไม่ต้องกิน อีก 2 วันหนูน่าจะหายเองได้ ยังไม่อยากให้กินยานี้ ถ้ายังมีไข้อยู่แล้วไข้สูงเกิน 37.7 ก็ค่อยให้กินยาฆ่าเชื้อ คุณหมอแนะนำให้เราไปซื้อที่ดูดน้ำมูกแบบเป็นสายแล้วเอาปากดูดเข้ากระเปาะแก้วของ Peigen มาดูดน้ำมูกให้หนู แล้วก็ไปซื้อที่วัดไข้เด็กแบบยิงใส่หู เพราะที่เรามีอยู่เป็นแบบเสียบจักกะแร้กับติดหน้าผากซึ่งเหมาะสำหรับเด็กโตไม่ใช่เบบี๋แบบน้องเกรซ ออกจาก รพ. เราก็พาหนูกลับบ้านให้คุณยายช่วยดูแล้วก็รีบออกไปศิริราชกับเซ็นทรัลซื้อของให้หนูต่อ

  • ได้ที่ดูดน้ำมูกมาเราก็จัดแจงเอาน้ำเกลือหยอดจมูกหนูแล้วก็ดูดน้ำมูกออกให้ น้องเกรซก็ดิ้นร้องโวยวายอีกตามระเบียบ (แต่ก็มีแอบอยากจะจับสายที่ดูดน้ำมูกเล่นด้วยนะ เพราะปกติหนูชอบเล่นอะไรที่เป็นสายๆจ๊ะ)

  • ฮ๋อ ไปหาหมอรอบนี้คุณหมอมีจ่ายยาหยอดจมูกมาให้เพิ่มด้วย ให้หยอด 3 วันจะช่วยให้หนูหายใจดีขึ้นเพราะหนูจมูกบวมแดง คอก็แดงมากขึ้นด้วย

  • ตกกลางคืนหนูก็โยเย ไข้ขึ้นอีกเหมือนเดิม
- วันอังคารที่ 14 ก.ย. 53 -

  • ตอนไปหาคุณหมอ หมอบอกว่าควรจะทำอาหารสดใหม่ทุกวันหรือสัก 3 วันครั้งให้หนูกิน จากเดิมเราทำอาทิตย์ละครั้งเพราะมัมมี้ไม่มีเวลาทำให้หนู

  • วันนี้ป่าป๊าก็เลยลงมือทำข้าวให้หนูเป็นเมนูใหม่ คุณหมอให้เน้นเนื้อสัตว์เยอะๆ ป่าป๊าเลยทำข้าวตุ๋นใส่หมูสับ ไข่แดง ปลา ผักคะน้า ต้นหอม ทำเสร็จป่าป๊าก็รีบกลับพัทยาเพราะมีงานต้องทำ ห่วงก็ห่วงหนู จะรีบไปเคลียร์งานแล้วรีบกลับมาช่วยมัมมี้

  • ช่วงบ่ายมัมมี้เพลียมากไม่ได้ไปทำงานเลยอยู่บ้านดูหนูตลอด มัมมี้เลยขอขึ้นไปนอนสักงีบ ตื่นมาได้ยินเสียงหนูร้องโวยวายเพราะพี่นาป้อนข้าว ก็ลงมาดู สักพักพี่นาตะโกนบอกว่า น้องเกรซแพ้อาหาร ผื่นขึ้นเต็มหน้าเลย (ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว 2 ครั้งแรกหนูแพ้กล้วยน้ำว้า) มัมมี้ก็ตกใจรีบให้หยุดกินพาหนูไปเช็ดหน้าเช็ดปากล้างออก แล้วก็รีบเอายาทาผื่นมาทา คุณยายก็ตกใจช่วยกันใหญ่ เห็นแล้วน่ากลัวมากเห่อแดงเต็มหน้าปาก คาง หู ขึ้นเต็มไปหมด เปิดเสื้อดูก็ลามไปที่หลังด้วย

  • มัมมี้งี้เครียดปุดๆ ขึ้นมาทันที หวัดหนูก็ยังเป็นอยู่แล้วยังมาแพ้อาหารอีก ขอโทษนะลูกเป็นความสะเพร่าของมัมมี้กับป่าป๊าเอง ดันให้หนูลองเมนูใหม่ ใส่ผักคะน้าฮ่องกงกับต้นหอมพร้อมกัน 2 อย่าง ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน ดันลืมไปว่าให้เพิ่มของใหม่ทีละอย่าง เวลาแพ้จะได้รู้ว่าแพ้อะไร คุณตาคุณยายเดาว่าหนูน่าจะแพ้คะน้าฮ่องกงเพราะเป็นผักเมืองจีน พวกนี้ยาฆ่าแมลงเยอะ

  • ป่าป๊าก็กลับไปแล้ว ตอนนั้นที่บ้านมีแค่มัมมี้ คุณยาย พี่นา พี่ปิ๋ง มัมมี้ตกใจทำอะไรไม่ถูก ลนไปหมด กลัวหนูจะเป็นอะไรไป จะให้กินยาแก้แพ้ลดน้ำมูกที่หมอให้มาก็ไม่กล้าให้กิน หรือว่าจะพาไป รพ เลยดี เย็นแล้วด้วยกว่าจะไปถึงรถติดแน่ๆ สุดท้ายโทรไป รพ ให้คุณหมอโทรกลับ พยาบาลรับเรื่องสื่อสารไม่เข้าใจกว่าหมอจะโทรกลับผ่านไป 30 นาที ผื่นหนูเริ่มยุบแล้วหลังจากทายาไป คุณหมอบอกว่าให้รีบป้อนยาแก้แพ้เลย ป้อนไปหนูก็ร้องไห้ไปน่าสงสารมากๆ เสร็จแล้วรออีก 1ชม ให้กินยาฆ่าเชื้อเพราะไข้หนูยังไม่หายสักที กินเย็นนี้แล้วก็พรุ่งนี้เช้าถ้ายังมีไข้อีกให้พาไปให้คุณหมอตรวจใหม่

  • คืนนี้มัมมี้ดูหนูคนเดียว ไม่มีป่าป๊านอนห้องข้างๆ คอยช่วยเหมือนเดิม มัมมี้เลยให้พี่นาขึ้นมานอนห้องข้างๆ เผื่อหนูไข้ขึ้นตอนกลางคืนจะได้ช่วยกัน

  • แล้วหนูก็ไข้ขึ้นอีกจนได้จริงๆ ป่าป๊าสั่งไว้ว่าให้นอนไม่ต้องเปิดแอร์ โห...มัมมี้นี้ตัวเหนียวหนึบหนับ ร้อนมากๆ อุ้มหนู หนูก็ตัวร้อน หัวแฉะ ซบกับไหล่มัมมี้อีก ตัวเหนียวกันทั้งแม่ทั้งลูก

  • ประมาณ 5 ทุ่ม หนูตัวร้อนทั้งๆที่ยังหลับอยู่นั่นแหละ มัมมี้ก็ 2 จิต 2 ใจว่าจะปลุกหนูขึ้นมากินยาดีมั๊ย จะเช็ดตัวให้ด้วย พอวัดไข้...โห ไข้ขึ้นสูงเลย หูขวา 37.8 หูซ้าย 38 มัมมี้โทรคุยกับป่าป๊า สรุปกันว่าเช็ดตัวให้หนูก่อน

  • ปลุกพี่นามาช่วยเช็ดตัว ทีแรกหนูยังไม่ตื่น พอตื่นก็ป้อนยาหนู เฮ้อ...หนูร้องไห้อีกตามเคย ร้องทุกครั้งที่กินยา บางครั้งร้องจนไม่มีเสียงเพราะเสียงแหบไปแล้ว สักพักใหญ่ๆ กว่าหนูจะหลับได้ มัมมี้ก็ไม่ได้นอนหรอกเป็นห่วงหนูมากๆ รู้มั๊ยลูก

  • คุณตากลับมาถึงบ้านราวๆ เที่ยงคืนเข้ามาดูในห้องเห็นมัมมี้อุ้มน้องเกรซอยู่เพราะหนูตื่นแล้วร้อง พออุ้มกล่อมก็หลับซบไหล่ พอวางก็ร้องอีก มัมมี้เลยไม่กล้าวางหนูอยากให้หนูได้นอนพักนานๆหน่อย คุณตามาบอกว่าเปิดแอร์ดีกว่า เสียงจะได้ไม่ดัง แต่ไม่ต้องเปิดแรง คุณตามาช่วยร้องเพลงกล่อมหนูด้วย สุดท้ายมัมมี้ก็วางหนูนอนได้ แต่หนูก็นอนได้ไม่นานหรอก หลับไปพักนึงก็จะร้องเอ๊ะตื่นอีก หลับๆ ตื่นๆ ตลอดทั้งคืน เล่นเอามัมมี้ไม่ได้นอนเลยจ๊ะ

- วันพุธที่ 15 ก.ย. 53 -

  • เช้ามาหนูยังมีไข้อยู่ ให้หนูกินยาลดไข้ไปตอน 8 โมง เสร็จแล้วมัมมี้ คุณยาย พี่นา ก็พาหนูไปหาหมอรอบที่ 3 กะว่าคราวนี้จะให้หนูนอน รพ ดีกว่า เป็นไข้มา 5 วันแล้ว อยากให้อยู่ใกล้หมอ คุณหมอตรวจแล้วก็เห็นด้วย จะได้เจาะเลือดให้น้ำเกลือหนูด้วย เพราะหนูกินได้น้อย ฉี่เหลืองขาดน้ำ เจาะเลือดไปตรวจให้มั่นใจว่าหนูไม่ได้เป็นไข้หวัด 2009 และไข้หวัดใหญ่

  • กว่าจะตรวจเสร็จก็ 11 โมงกว่า พอสรุปว่าให้หนูนอน รพ มัมมี้ก็โทรบอกป่าป๊าและคุณตา ป่าป๊าจะรีบเคลียร์งานแล้วเข้ามานอนเฝ้าหนูคืนนี้

  • ทีแรกป่าป๊ากะว่าจะเฝ้าหนู แล้วให้มัมมี้กลับบ้านไปพัก มัมมี้ห่วงหนูไม่กลับหรอก อีกอย่างตอนกลางคืนหนูต้องกินนมจากเต้ามัมมี้ด้วย

  • เจ้าหน้าที่ รพ มาอธิบายเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าห้องพัก แพงเอาเรื่องทีเดียวละ ห้องธรรมดาคืนละ 7,200 บาท แต่คืนแรกมี promotion เหลือ 4,500 บาท คืนที่สองได้ลด 20% จากราคาเต็ม เผอิญโชดคีรึเปล่าก็ไม่รู้ เด็กป่วยเยอะมากห้องเต็ม หนูเลยได้อัพเกรดเป็นห้องใหญ่ขึ้น มีห้องกินข้าว ดูทีวี แยกต่างหากจากห้องนอนด้วย ห้องนี้ปกติคืนละหมื่นกว่าบาทหนะ อืม...นอนสบายดีเหมือนกันแฮะ

  • ระหว่างรอห้องพัก น้องเกรซก็หลับคารถเข็นเลย คุณยายพาเข็นไปเข็นมาด้านนอกแผนกเด็กเพราะข้างในเด็กป่วยเยอะ ไม่อยากให้หนูรับเชื้อเพิ่ม คุณยายบอกว่าหนูชอบนั่งรถเข็น

  • พอขึ้นห้องพักแล้ว รอสักพักนึงพยาบาลก็มาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หนูเป็นชุดคนไข้ และรอคิวห้องเจาะให้น้ำเกลือว่างเพราะตอนนี้เด็กรอคิวเจาะน้ำเกลือกันหลายคน

  • เฮ้อ...มัมมี้สงสารหนูมากๆ หนูต้องเจ็บและร้องไห้เยอะแน่ๆเลย พอถึงเวลามัมมี้พาหนูเข้าไปส่งให้พี่พยาบาลแล้วมัมมี้ก็ออกจากห้อง ทนดูหนูร้องไห้ไม่ไหวจ๊ะ แต่ก่อนจะเจาะให้น้ำเกลือทั้งมัมมี้กับคุณยายก็ถามคุณหมอถึงรายละเอียดแล้วละ คุณยายกลัวหนูดึงเข็มออก คุณหมอกับพยาบาลก็อธิบายให้ฟังว่าจะมีการพันหลายชั้น มีใส่ไม้ดามไว้ แล้วก็ใส่ถุงมืออีกชั้นนึง ก่อนมัมมี้ออกจากห้องมัมมี้ก็ถามพี่พยาบาบให้มั่นใจว่าหนูจะไม่เป็นอะไร ถามว่าเคยมีเด็กร้องมากๆ จนช๊อกมั๊ย พี่พยาบาลเล่าให้ฟังว่าส่วนใหญ่เด็กจะร้องตั้งแต่ตอนที่จับรัดติดกับเบาะแล้ว ยังไม่ทันได้เจาะด้วยซ้ำ มัมมี้ออกมานอกห้องมองผ่านประตูฝ้าเข้าไปเห็นหนูดิ้นใหญ่ ร้องเสียงดังมากๆ สงสารลูกจริงๆ
  • แต่ให้น้ำเกลือแล้วหนูจะได้มีแรงเนอะ เพราะหนูกินได้น้อย หนูจะได้หายเร็วๆ จ๊ะ

  • พอมีสายน้ำเกลือมาอยู่ที่แขนซ้ายหนูแล้ว มัมมี้กับคุณยายถึงนึกขึ้นได้ว่า ลืมแจ้งพยาบาลว่าหนูติดดูดนิ้วโป้งข้างซ้ายเวลาง่วง เอาละสิ...ทีนี้จะนอนได้มั๊ยเนี่ย

  • ช่วงแรกๆ น้องเกรซจะพยายามดึงสายน้ำเกลือออก หนูคงสงสัยว่ามันคืออะไร ปกติหนูชอบเล่นพวกอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นสายๆ อยู่แล้วด้วย คุณยายบอกว่าสักพักหนูก็เลิกใช้แขนซ้ายไปเองโดยปริยายเหมือนจะรู้ว่าแขนนี้ยังใช้งานตอนนี้ไม่ได้อย่างนั้นแหละ ฉลาดจริงๆจ๊ะ

  • หลังจากเจาะเส้นเลือดให้น้ำเกลือ หนูคงเหนื่อยสักพักหนูก็หลับบนรถเข็น แปลกจริงๆ น้องเกรซชอบนั่งรถเข็นมาก นั่งเล่นสักพักเข็นไปเข็นมาก็หลับคารถเลย รถเข็น Combi นี้ป่าป๊ากับมัมมี้ไปซื้อจากงาน baby best buy มาใหม่ให้หนูเพราะคันเก่ามันหนักและกินพื้นที่ท้ายรถ คันนี้ดีตรงที่สามารถเข็นได้ 2 ทางด้วย เวลาหนูนั่งหนูจะได้เห็นหน้าคนเข็นด้วยจ๊ะ มัมมี้ชอบตรงที่มันสามารถปรับนอนได้ด้วย ตอนที่หนูนั่งหลับมัมมี้ก็ค่อยๆเลื่อนสายด้านหลังลงปรับเป็นท่านอนให้หนูโดยที่หนูไม่ตื่น

  • พอมัมมี้กินข้าวเสร็จก็รีบขับรถกลับบ้านไปเอาเสื้อผ้าของใช้หนูมาที่รพ ฝากคุณยายกับพี่นาช่วยดูหนูตอนที่มัมมี้ไม่อยู่

  • กลับมาถึง รพ อีกที น้องเกรซตื่นแล้ว ดูสดชื่นขึ้นเยอะเลย

  • คุณหมอเปลี่ยนยาฆ่าเชื้อตัวใหม่ให้หนูเพราะผลตรวจเลือดออกมาว่าหนูได้รับเชื้อไวรัส ไม่ใช่แบคทีเรีย ยาตัวเก่ากินแล้วไม่ช่วยรักษา จริงๆ คุณหมอบอกว่าพวกเชื้อไวรัสไม่มียารักษาโดยตรง ต้องปล่อยให้เชื้อมันตายไปเอง

  • พอหนูกินยาฆ่าเชื้อตัวใหม่ ดันมีผลข้างเคียงของยาอีก ทำให้หนูท้องเสีย ถ่ายเหลวตั้ง 4-5 รอบ เฉพาะช่วงบ่ายวันนี้วันเดียว คุณหมอเลยต้องให้หนูกินยาแก้ท้องเสียอีกตัว แล้วก็เปลี่ยนยาฆ่าเชื้อใหม่ เฮ้อ...กลายเป็นว่าหนูต้องกินยาเต็มไปหมด

  • ไอ้ยาแก้ท้องเสียเนี่ยก็กินยากมากๆ เพราะตัวยามีเนื้อแป้งคล้ายๆโคลนเหนียวๆผสมอยู่ แถมปริมาณที่กินก็เยอะซะด้วย ตอนพยาบาลป้อนยาหนูร้องไห้ดิ้นน่าดู มัมมี้เห็นแล้วสงสารหนูมากๆ

  • ป่าป๊ามาถึงตอนพยาบาลกำลังป้อนยาหนูพอดี พยาบาลกะกลางคืนไม่เก่งป้อนสู้กลางวันไม่ได้ แถมคนที่มาป้อนหนูเนี่ยป้อนไม่ได้เรื่องเลย ยาก็หกป้อนไม่เข้า หนูก็ร้องทรมาน เหงื่อแตกเต็มหน้า ร้องจนเหมือนกลั้นหายใจร้อง จนมัมมี้ต้องให้พักก่อน ตอนหลังเปลี่ยนคนป้อนก็ดีขึ้น หนูได้ยาบ้างแต่ก็ไม่ครบ

  • คืนนี้หนูนอนหลับได้ดีขึ้นจ๊ะ มัมมี้ก็ได้พักหน่อย ตอนนอนให้นมหนูก็ต้องคอยระวังไม่ให้ไปทับสายน้ำเกลือเข้า คืนนี้หนูไม่มีไข้แล้ว ดีจัง

- วันพฤหัสที่ 16 ก.ย. 53 -

  • เช้านี้มัมมี้ไปทำงานจ๊ะ หยุดมา 3 วันแล้ว (เดี๋ยวโดนไล่ออก) จริงๆ ไม่อยากไปหรอก เป็นห่วงหนู แต่ป่าป๊ามาช่วยดูให้แล้วก็วางใจหน่อย

  • มัมมี้รอคุยกับคุณหมอเสร็จแล้วก็ค่อยไปทำงาน คุณหมอขอดูภาพรวมหนูอีกทีช่วงบ่ายแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะให้กลับบ้านได้วันนี้มั๊ย

  • แต่มัมมี้กับป่าป๊าและคุณตาคุณยายเห็นตรงกันว่าน่าจะให้หนูอยู่ต่ออีกคืน จะได้ใกล้ชิดหมอแล้วก็มีพยาบาลป้อนยาให้หนูให้ครบโด๊สด้วย
  • ที่ รพ เค้ามีรถเด็กเล่นให้หนูนั่งขับรถ ปรื้นๆ ด้วยนะ มัมมี้เลยไปเข็นรถมาให้หนูนั่งเล่นในห้องแป๊บนึง หนูก็ใช้มือเดียวขับรถ หมุนพวงมาลัย ปรื้นๆ นั่นแหละจ๊ะ ทำหน้าทำตาขมวดคิ้วสงสัยใหญ่ ก็หนูไม่เคยเล่นมาก่อนนี่นา

  • สายๆ คุณตาก็พาคุณยายและพี่นามาเยี่ยม ทิ้งพี่นาให้อยู่คอยช่วยป่าป๊าดูแลหนู

  • พอพักเที่ยงมัมมี้ก็รีบกินข้าวแล้วก็แวะไปดูหนูที่ รพ เพราะที่ทำงานมัมมี้อยู่ไม่ไกล รพ นัก มัมมี้แวะซื้อกับข้าวและขนมไปให้ป่าป๊ากับพี่นากินกันด้วย ไปถึงหนูหลับอยู่พอดี หลับสบายเชียวจ๊ะ อยู่ได้ไม่นานมัมมี้ก็ต้องรีบกลับมาทำงานต่อ

  • ป่าป๊าเห็นหนูยังมีน้ำมูกและเสมหะเยอะอยู่ เลยถามคุณหมอว่าจะให้ล้างจมูกกับดูดเสมหะออกจากคอหนูได้มั๊ย คุณหมอก็ว่าทำได้ ทีแรกมัมมี้ก็ไม่ได้คิดอะไร ทำได้ก็น่าจะดี หนูจะได้หายใจสะดวกขึ้น แต่...พอนึกไปนึกมา มันต้องเจ็บแน่ๆเลยไอ้ที่จะดูดเสมหะออกจากคอเนี่ย สงสารหนูอีกแล้ว มัมมี้เลยให้ป่าป๊าถามคุณหมออีกทีสิว่ามันจำเป็นมั๊ย

  • แต่ป่าป๊าใจแข็งอะให้ทำ โชคดีที่มัมมี้มาทำงานไม่ต้องเห็นสภาพหนูร้องไห้ รู้จากป่าป๊าแค่ว่าเค้าจับหนูไปพ่นยาอะไรสักอย่างก่อนเพื่อให้เสมหะในคอมันไม่เหนียว เสร็จแล้วก็คงจะใส่สายเข้าไปในคอหนูเผื่อดูดออกมา

  • ส่วนล้างจมูกเนี่ยมัมมี้มาเห็นอีกทีตอนล้างก่อนนอนรอบที่ 2 เค้าเอาไซริ้งค์ใหญ่ๆดูดน้ำเกลือแล้วก็ฉีดแรงๆเร็วๆเข้าไปในรูจมูกหนูข้างนึง เสร็จแล้วน้ำเกลือกับน้ำมูกมันก็จะไหลออกมาจากจมูกอีกข้าง แต่...เราดันโชคไม่ดีเจอพยาบาลกะกลางคืนคนเดิมที่ไม่เก่งอีกแล้ว เค้าฉีดไม่แรงพอทำให้น้ำมันไหลเข้าปากหนูไปตั้งหลายอึกหนะ (ป่าป๊าเล่าว่าตอนกลางวันพยาบาลฉีดแรง น้ำมูกไหลปื้ดๆออกมาเลย) หนูก็ฉลาดจริงๆพอเห็นหน้าพยาบาลคนนี้ปุ๊บก็ร้องไห้ปั๊บแบบว่า..ชั้นไม่อยากได้คนนี้

  • โดยรวมวันนี้อาการหนูดีขึ้นมากๆ แล้วจ๊ะ เฮ้อ...โทรมไปเลยเนอะ ไม่สบายทีนึง

- วันศุกร์ที่ 17 ก.ย. 53 -
  • วันนี้น้องเกรซจะได้ออกจาก รพ แล้วจ้า

  • ตอนเช้าก่อนมัมมี้ไปทำงานก็ขนสัมภาระบางส่วนใส่รถมัมมี้ก่อน ตอนที่ป่าป๊ากับพี่นาพาหนูกลับบ้านของจะได้ไม่เยอะ

  • คุณยายรออยู่ที่บ้านก็ให้พี่ปิ๋งทำความสะอาดบ้าน ฉีดยุง รอหนูกลับไปจ๊ะ

  • ออกจาก รพ ราวๆบ่ายโมง ถึงบ้านก็บ่ายสองโมงกว่าๆ ฝนตกหนักมากๆ อากาศไม่ดีเลย

  • ป่าป๊าส่งหนูที่บ้านแล้วก็ออกไปซูเปอร์ซื้อของสดมาทำกับข้าวให้หนูกิน เราถามคุณหมอแล้ว คุณหมอให้เหยาะซี่อิ้วนิดๆลงไปในข้าวหนูได้ รู้สึกว่าหนูจะกินได้ดีขึ้นด้วย คงจะชอบ

- บทสรุป -

  • ถึงจะออกจาก รพ แล้ว แต่หนูก็ยังต้องกินยาอยู่อีก 3 ตัว ตัวแรกเป็นยาฆ่าเชื้อกินต่ออีก 3 วันๆละ 1 ครั้ง อีก 2 ตัวเป็นยาน้ำเขียว (ยาลดน้ำมูก) และยาน้ำแดง (ยาละลายเสมหะ) กินวันละ 3 ครั้ง จนกว่าจะหาย

  • เสาร์-อาทิตย์ ป่าป๊าเป็นคนป้อนยาหนู

  • พอวันธรรมดาให้พี่นาป้อน พี่นาป้อนเก่งทีเดียวละ คงจะจำมาจากพี่พยาบาล ท่าถือไซริ้งค์งี้เหมือนพยาบาลถือเลยน๊า

  • หลังๆ หนูกินยาไม่ร้องมากแล้ว คุณยายให้พี่ปิ๋งเอาผีเสื้อมาให้หนูดู (ไม่รู้ทำไมหนูชอบผีเสี้อจังน๊า) แล้วก็เอาอีกตัวมาใส่มือให้หนูกำไว้

  • หนูกินยามื้อสุดท้าย เช้าวันที่ 22 ก.ย. ไม่มีร้องสักแอะ ที่สำคัญ...ดันนอนกระดิกเท้าดิกๆ ให้พี่นาป้อนเฉยเลย แถมมียิ้มอีกตะหาก แสดงว่าที่ผ่านมาไม่ใช่ยาไม่อร่อยเนอะ

  • น้องเกรซไม่ได้อาบน้ำสระผมมาตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย.

  • 23 ก.ย. คุณยายจะให้หนูอาบน้ำเป็นครั้งแรกจ้า ช่วงที่ไม่ได้อาบน้ำก็เช็ดตัวหนูเอา บางทีก็เอาหนูนั่งกะละมังล้างก้น หนูชอบมากๆ ย่ำเท้าใหญ่ อยากจะเล่นน้ำใจแทบขาดแล้วใช่ม๊า...

  • ดีใจจังน้องเกรซเกือบหายเป็นปกติแล้ว เหลือแค่ยังเสียงแหบอยู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง

  • พอเริ่มฟื้นไข้หนูกินเก่งมากๆ คุณยายเล่าว่าหนูกินข้าวชามเบ่อเริ่มหมดเลยเสร็จแล้วตามด้วยนมอีก 2 oz ก็หมด กลายเป็นว่าตอนนี้หนูกินนมมัมมี้จากขวดวันละประมาณ 23 oz มากกว่าตอนก่อนเข้า รพ อีก

  • พอน้องเกรซกลับมาอยู่บ้าน มัมมี้ก็เริ่มๆ เจ็บคอ มีไข้ จะป่วยด้วยอีกคน คงเป็นเพราะมัมมี้ออดนอนมาหลายคืน มัมมี้เลยต้องรีบโด๊ปทั้งวิตามินทั้งยา กลัวจริงๆ ว่าจะทำให้น้องเกรซไม่สบายอีก

  • พี่นากับพี่ปิ๋งก็เริ่มเจ็บคอเหมือนกัน ทุกคนที่มีอาการโดนสั่งให้กินยาและใส่หน้ากากทุกครั้งที่เข้าใกล้น้องเกรซจ๊ะ

  • ล่าสุดมัมมี้ชั่ง นน น้องเกรซ กลับมาอยู่ที่ 6.7 กก เหมือนเดิมแล้ว เพราะตอนที่ป่วย นน หนูลดเหลือ 6.5 เองจ๊ะ

  • มัมมี้ ป่าป๊า รักหนูที่สุดเลยน๊า ตอนหนูป่วยป่าป๊าโดนรุมประนามใหญ่เลย โทษฐานที่เอาเชื้อมาติดหนู

  • มัมมี้ดีใจจังที่ตอนนี้ได้เห็นน้องเกรซกลับมาแข็งแรง เป็นเด็กร่าเริง ยิ้มง่าย หัวเราะเก่ง เหมือนเดิมแล้วจ๊ะ (ตอนวันสุดท้ายที่หนูดีขึ้นแล้วจะออกจาก รพ ก็มีแต่คนชมว่าหนูอารมณ์ดีจัง)

Wednesday 8 September 2010

Grace @ 8 months

ครบ 8 เดือนเต็มพอดีเป็นวันที่น้องเกรซทำ "ธุจ้า" เป็น คุณยายสอนหนูอยู่ไม่กี่วันเองก็ทำได้แล้ว ธุจ้า...ฉบับลิงหลอกเจ้า เวลายายจ๋าบอกให้น้องเกรซ ธุจ้า หนูก็จะยกแขนเอา 2 มือประกบกันขึ้นสูงๆ เหนือหน้าผากหนู ทีนี้ละพอทำเป็นแล้วผู้ใหญ่ชม ก็เข้าทางหนูละ เด็กบ้ายออย่างน้องเกรซก็เลยทำใหญ่ ทำทุกวัน วันละหลายๆ รอบด้วย

เล่น peekaboo ก็เป็นอะไรที่หนู crazy มากๆ เล่นมันทุกวันเหมือนกัน ตื่นมาปุ๊บคว้าผ้าห่มตัวเองได้ปุ๊บ ยังงัวเงียอยู่เลย หนูก็เอาผ้ามาปิดหน้าตัวเอง แล้วก็เล่น peekaboo กับมัมมี้ซะแล้ว ป่าป๊ามาเล่าให้มัมมี้ฟังด้วยว่า ตอนที่ป่าป๊ากำลังเปลี่ยนผ้าอ้อมให้หนูหลังจากที่หนูฉี่ ป่าป๊ายังไม่ทันใส่ผ้าอ้อมผืนใหม่ให้หนูเลย ยังโป่โป๊ท่อนล่างอยู่อย่างนั้นแหละ อยู่ดีๆ หนูก็ดึงเสื้อตัวเองขึ้นไปปิดหน้าปิดตาตัวเองซะ โชว์พุงหลา จะเล่นจ๊ะเอ๋กับป่าป๊าเฉยเลย จี้มากๆ

เย้ๆๆ ในที่สุด...น้องเกรซก็เริ่มคลานกับเค้าซะที ทุกคนลงความเห็นว่าหนูไม่คลานแล้วนะเนี่ย 8 เดือนกับอีก 4 วัน เป็นครั้งแรกที่หนูคลานจ๊ะ คุณยายเป็นคนเห็นคนแรก มัมมี้เพิ่งจะมาเห็นก็ผ่านไปแล้วอีก 3 วัน มัมมี้รีบคว้ากล้องวีดีโอมาถ่ายแทบไม่ทัน คุณยายเล่าว่าตอนหนูคลานไปหาคุณยาย หนูคลานเร็วมากๆ แป๊บเดียวไปถึงขอบแผ่นรองคลานเลย ทายสิว่าพอไปถึงขอบแผ่นรองคลานน้องเกรซทำอะไรเอ่ย... ติ๊กต่อกๆ จะมีอะไรซะอีก หนูก็ก้มลงไปชิมขอบแผ่นรองคลานเรียบร้อยโรงเรียนน้องเกรซไงค๊า คุณยายบอกว่าหนูไม่ได้คลานอะ แต่หนูว่ายน้ำเอา มัมมี้ว่าแบบนี้มันน่าจะเรียกว่าคลานน๊า คุณยายเล่าให้ฟังอีกว่า สมัยมัมมี้เป็นเบบี๋เหมือนน้องเกรซ มัมมี้ก็ไม่คลานละ แต่ใช้วิธีนั่งแล้วกระดืบๆเอา อิอิ น้องเกรซเก่งกว่ามัมมี้อีกน๊า รู้จักคลานด้วย
จากนอนมาลุกนั่งเองได้แล้ว 8 เดือนกับอีก 13 วัน เป็นช่วงที่น้องเกรซป่วยและมัมมี้หยุดอยู่บ้านดูแลหนูเลยได้มีโอกาสเห็นพัฒนาการอีกขั้นของหนูด้วยตัวเอง วันนั้นหนูนอนกลิ้งไปกลิ้งมา นอนคว่ำอยู่ แล้วก็ค่อยๆ หดขายกก้นกระดืบๆให้สูงขึ้น ใช้มือสองข้างยันพื้น จนลุกขึ้นมานั่งเองได้สำเร็จ ไม่ต้องให้มัมมี้ช่วยจับหนูจากท่านอนมาเป็นท่านั่งแล้ว เก่งมากๆ ค่า ทีนี้ละพอหนูทำเป็น หนูก็จะชอบทำใหญ่เลย
8 เดือน 15 วัน ฟ.ฟัน ซี่แรก ก็โผล่มาให้ยลโฉมกันแล้ว เป็นฟันหน้าล่างซ้ายค่า เข้าใจว่าซี่ข้างๆ กำลังจะขึ้นตามมาติดๆ หนูจะคันฟันมากเป็นพิเศษ แถมพวกยางกัดบรรเทาอาการคัดเหงือกก็ไม่ค่อยชอบกัดด้วยนะ จะกัดพวกของเล่น ของอย่างอื่นแทน เช่น ฝาขวดนม เอาด้านที่มนๆ ใส่ปากแล้วก็ถูไปมา ทำเสียงตลกๆ อะ วู้ๆ อะ ว้าๆ ลาลาลาลาลา
ช่วงที่หนูป่วยอยู่ รพ อีกเหมือนกัน เป็นอีกวันที่ได้ยินหนูเริ่มหัดพูดเป็นเรื่องเป็นราวครั้งแรก น้องเกรซจะทำปากพะงาบๆ แล้วก็ออกเสียงว่า ปะ ปา ปา บางครั้งก็ มะ มา มา ... มัมมี้คิดว่าหนูต้องกำลังจะหัดพูด ป่าป๊า มัมมี้/แม่ อยู่แน่ๆ เลย พอมัมมี้สอนให้หนูพูดตาม โดยมัมมี้พูดนำช้าๆ ชัดๆ หนูก็มองปากมัมมี้ใหญ่แล้วก็พูดตามด้วยน๊า วันที่ 17 กย 53 ตอนที่มัมมี้นั่งกินข้าวเช้าอยู่ พี่นาอุ้มหนูมานั่งดูมัมมี้กินข้าว หนูพูดคำว่า "แม่" ด้วยละ ชัดแจ๋วเลย มัมมี้ดีใจมากๆ ถึงแม้ว่ายังไม่แน่ใจว่าหนูเรียกมัมมี้จริงๆรึเปล่าก็ตามเถอะ อืม...จริงๆ แล้วคืนวันที่ 16 กย ตอนที่มัมมี้กับพี่นาเล่นกับหนูอยู่บนเตียง หนูก็พูดว่า ปะป๊า ด้วยละ แต่ตอนนั้นป่าป๊าเดินอยู่ด้านนอกห้อง หนูคงพูดไปตามเรื่องตามราวเรื่อยเปื่อยแนอะ อิอิ ลุ้นๆ ว่าหนูจะพูดคำว่าอะไรได้เป็นคำแรกน๊า ตื่นเต้นๆ
~ 28 ก.ย. 53 ~ ช่วงนี้ผมหน้าม้าหนูเริ่มยาวแล้ว วันนี้หนูเลยโดนคุณยายจับเล็มผมหน้าม้า กลายเป็น ม้าเหิน ซะงั้น คุณยายตัดหางเต่าหนูด้วย แปลกดีผมตรงหางเต่าหนูจะยาวเร็วมากแถมขึ้นดกอีกตะหาก
ปิดท้ายด้วย นน หนู ไม่ขึ้นอีกตามเคย สิ้นเดือนที่ 8 น้องเกรซหนัก 6.8 โลจ๊ะ (ตอนป่วยลดไป 2 ขีดน๊า) ไม่เป็นไรโด๊ปใหม่ๆ